สุดปัง! ชาวบ้าน 7 อำเภอของ จ.ตรัง ค้างค่าไฟ 23 ล้านบาท

สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่  7 อำเภอของ จ.ตรัง ประกอบด้วย อ.เมือง อ.กันตัง, อ.สิเกา อ.นาโยง อ.ย่านตาขาว อ.ปะเหลียน และอ.หาดสำราญ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นพื้นที่รับผิดชอบของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สำนักงานตรัง  

ผู้ใช้ใน 7 พื้นที่นี้ ทยอยเดินทางมาจ่ายเงินค่าไฟฟ้า โดยบางรายเดินทางมาจ่ายตามกำหนดรอบบิลปกติของเดือนสิงหาคม – กันยายน 2565 ไม่มีการค้างจ่าย  แต่บางส่วนซึ่งไม่ได้ดำเนินการขอผ่อนชำระ ยอมรับว่าเดินทางมาจ่ายค่าไฟของเก่าที่ยังค้างอยู่ตั้งแต่ 2 -4 บิลเดือน 

สื่อฝรั่งเศสยก "มินามิโนะ" ดีลแย่สุดลีกเอิง

สถิติทั่วโลกฟ้อง! มีผู้ฆ่าตัวตายสำเร็จ 1 คน ในทุก 40 วินาที เฉพาะคนไทย 4,800 คนต่อปี

 

ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะดำเนินการงดจ่ายกระแสไฟฟ้า หรือยกมิเตอร์กลับ และต้องเสียค่าธรรมเนียมในการติดตั้งใหม่เป็นเงิน 107 บาท  โดยทุกรายที่เดินทางมาจ่ายค่าไฟ ต่างก็บ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าค่าไฟแพงขึ้นมาก และห่วงกังวลในรอบบิลเดือนกันยายนที่กำลังจะได้รับ เพราะเชื่อว่ายอดค่าไฟน่าจะแพงมากกว่าเดิม

นายชำนิ  จำปา รองผู้จัดการฝ่ายบริหาร การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สำนักงานตรัง กล่าวว่า ผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่รับผิดชอบของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สำนักงานตรัง รวมจำนวนกว่า 90,000 ราย ครอบคลุมพื้นที่  7 อำเภอที่ได้กล่าวไป พบว่ากว่า 15,000 ราย หรือประมาณ 15% ค้างจ่ายค่าไฟ ยอดหนี้รวมกว่า 23 ล้านบาท

ทั้งประเภทบ้านพักอาศัย ธุรกิจ ร้านค้าต่างๆ ในจำนวนนี้ประมาณ 50% พบการผิดนัดการผ่อนชำระ ระบบงานเลยต้องสั่งงดใช้ไฟ หรือมีการยกมิเตอร์ไฟฟ้ากลับไปเก็บไว้ที่สำนักงาน และพบบางรายค้างนานสุดรวมกว่า 20  บิลเดือน หรือประมาณ 2 ปี ยอดรวมนับแสนบาท

ยอดรวมถูกฟ้องร้องจำนวนหลายล้านบาท ซึ่งสถานการณ์การติดค้างชำระค่าไฟฟ้านั้น ไม่ใช่เฉพาะในพื้นที่จ.ตรัง แต่เป็นเหมือนกันหมดทั่วประเทศ นับตั้งแต่ช่วงสถานการณ์ระบาดของเชื้อโควิด -19 ที่ผ่านมา  

แต่ทางการไฟฟ้าได้ออกแผนการจัดการหนี้ดังกล่าว ด้วยการให้ประชาชนผ่อนชำระกับการไฟฟ้าตามกำลังความสามารถของประชาชนแต่ละราย  โดยประชาชนต้องเดินทางเข้าไปติดต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อทำการปรับโครงสร้างหนี้ ทั้งการผ่อนชำระค่าไฟค้างเก่าตามกำลังความสามารถของแต่ละราย  

และเซ็นหนังสือรับสภาพหนี้ โดยต้องจ่ายค่าไฟเดือนใหม่ตามเวลาที่กำหนด เพื่อให้หนี้เก่าหมดไป และหนี้ใหม่ก็จะไม่เกิด 

จากการลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน พบว่า ประชาชนบางรายที่พักอาศัยอยู่กับบ้านและใช้พื้นที่หน้าบ้านเปิดเป็นร้านขายอาหารตามสั่ง กล่าวว่า เพิ่งได้สังเกตว่าค่าไฟฟ้าแพงขึ้น นับจากเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาแล้ว  

โดยเดือนกรกฎาคมจ่ายค่าไฟรวมเป็นเงิน  1,129 บาท แต่มาบิลเรียกเก็บเงินของเดือนสิงหาคมนี้เป็นเงิน 1,630 บาท ซึ่งเมื่อนำบิลเรียกเก็บเงินมาดูก็รู้สึกตกใจว่าทำไมค่าไฟฟ้าในเดือนสิงหาคมนี้สูงมาก สูงอย่างไม่เคยเจอปรากฎการณ์นี้มาก่อน 

โดย ตั้งแต่เดือนกันยายน-ธันวาคม 2565 ค่าไฟฟ้าต่อหน่วยจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 4.72 บาท สำหรับคนที่ใช้ไฟฟ้าเกิน 500 หน่วยต่อเดือน  เพราะจะไม่ได้ส่วนลดตามเงื่อนไขที่รัฐบาลกำหนด

ด่วน!! สารเคมีรั่ว นครปฐม ส่งกลิ่นฉุนรุนแรงลามข้ามเขต

“เฟด” ส่งซิก ปลายปีนี้ดอกเบี้ยแรงกว่าเดิม คาดตลาดหุ้นผันผวน ไทยจับตา กนง.ประชุม 28 ก.ย.