หญิงอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้ามารับซื้อต้นกระท่อมจากชาวบ้าน ซึ่งพบว่ามีการไปรับซื้อในหลายจังหวัด ทั้งที่ชุมพร และตรัง โดยเฉพาะ อ.ท่าฉาง จ. สุราษฎร์ธานี ที่ผู้เสียหายหลายคนรวมตัวกัน เพื่อเอาผิดหญิงคนนี้ ผู้เสียหายเล่าว่า รู้จักหญิงคนนี้ซึ่งจะใช้ชื่อในการติดต่อว่า "ผู้กองเดียร์" จากการแนะนำกันมาเป็นทอดๆ
เงินเยนหยุดอ่อนตัว หลัง รบ.ญี่ปุ่น เข้าแทรกแซงค่าเงิน แต่อาจพยุงได้ชั่วคราว
น้ำมันขึ้นแล้วจ้า! พรุ่งนี้ "โออาร์" ปรับเพิ่มราคา เบนซิน 50 สต. ดีเซลคงเดิม
ภายหลังทราบว่า หญิงคนนี้ดั้งเดิมเป็นชาว จ.ชัยภูมิ ก่อนมาทำอาชีพรับจัดสวนที่ จ.สระบุรี ทำให้เริ่มรู้จักกับเจ้าของรีสอร์ทและคนมีฐานะ จากนั้นได้สร้างโปรไฟล์ว่าเป็น เจ้าของฟาร์มหลายร้อยไร่ ทั้งที่เป็นที่ดินที่เช่ามา เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
กระทั่งรัฐบาลมีนโยบายปลดล็อกกระท่อม "ผู้กองเดียร์" ก็อ้างว่า มีเจ้านายเป็นหม่อมหลวง และมีเพื่อนเป็นเจ้าสัวใหญ่ กำลังทำโครงการส่งเสริมการปลูกพืชกระท่อมพันธุ์ก้านแดงแมงดา หรือ กระท่อมพันธุ์ดี นอกจากนี้ยังอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการเกษตร และช่วงแรกมักใส่เสื้อที่มีข้อความว่ากระทรวงเกษตร และตราของกระทรวงมาพบชาวบ้านด้วย
จากนั้นจะสร้างความน่าเชื่อถือด้วยการพาคนมาถ่ายคลิปประกอบโครงการ และพาชาวบ้านไปดูงานและถ่ายภาพร่วมกับข้าราชการของจังหวัดภายในงานที่ทางราชการจัดขึ้น ยิ่งทำให้ชาวบ้านหลงเชื่อว่า "ผู้กองเดียร์" เป็นเจ้าหน้าที่จริง ก่อนไปหลอกชาวบ้านตามวิสาหกิจชุมชน ว่ารับซื้อต้นกระท่อม อ้างว่าส่งให้นักการเมืองในพรรคภูมิใจไทยเกือบหมดพรรค มีเอกสารยืนยัน เช่น อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม คนละ 200 ต้น และยังอ้างว่า จะส่งไปที่มาเลเซียและจีน แต่จะจ่ายแค่ค่ามัดจำ อ้างว่าต้องรอเบิกงบจากกระทรวง โดยไปก๊อบปี้ภาพเช็คในอินเตอร์เน็ตมาส่งให้ดูว่า กระทรวงอยู่ระหว่างเบิกงบ พร้อมกับเรียกเก็บค่าดำเนินการหรือค่านายหน้าจากชาวบ้านหลักหมื่นบาท
ในจำนวนนี้มีผู้เสียหายคนหนึ่ง ซึ่งถูก "ผู้กองเดียร์" หลอกลงทุนทำธุรกิจหลายอย่างมาตั้งแต่ปี 62 และยังถูกหลอกเรียกรับเงินอ้างว่า สามารถช่วยให้ลูกชายเป็นทหารได้ ซึ่งเธอบอกว่า สาเหตุที่หลงเชื่อ เพราะทุกครั้ง "ผู้กองเดียร์" จะมีเอกสารทางราชการมาอ้างอิงเสมอ ทั้งการอ้างถึงผู้ว่าฯ และเอกสารที่อ้างว่า เป็นทหารยศร้อยเอก สังกัดหน่วยงานกองการรักษาความมั่นคงภายในสระบุรี หรือ มทบ.18 ได้รับเครื่องราชหลายลำดับ สุดท้ายเธอสูญเงินส่วนตัวกว่า 16 ล้าน ยังไม่นับรวมดอกเบี้ยที่กู้ยืมมา
นายนราธร อักษรรัตน์ ผู้ได้รับมอบหมายจากผู้เสียหาย ระบุว่า เบื้องต้นมีผู้เสียหายไปแจ้งความแล้วประมาณ 10 ราย รวมความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท ซึ่งพบว่าผู้กองเดียร์นั้น รู้ช่องว่างกฎหมาย ทำให้ที่ผ่านมาแม้จะมีการแจ้งความแต่ก็จบที่การไกล่เกลี่ย จากนี้ตนจะไปยื่นหนังสือกับพรรคภูมิใจไทย และหน่วยงานที่ผู้กองเดียร์อ้างถึงเพื่อให้ตรวจสอบเรื่องนี้ รวมถึงจะตรวจสอบเรื่องการฟอกเงินด้วย เพราะพบว่า หญิงที่อ้างเป็นผู้กองเดียร์ ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร แต่มีเงินเข้าบัญชีจำนวนมาก และมีผู้ร่วมขบวนการด้วย
ทีมข่าวโทรศัพท์หาผู้กองเดียร์ หรือ น.ส.ศศิธร ปฏิเสธจะให้สัมภาษณ์ แต่ให้ข้อมูลยืนยันว่า ไม่เคยแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการเกษตร ของกระทรวงเกษตรฯ และไม่เคยใส่เสื้อที่มีสัญลักษณ์กระทรวงฯ รวมทั้งไม่เคยแอบอ้างเป็นทหาร และขณะนี้ได้เข้าพบตำรวจตามหมายเรียกแล้ว ไม่ขอให้รายละเอียดอื่นขอต่อสู้ตามกระบวนการ
อีกด้านทีมข่าวตรวจสอบไปยังกรมส่งเสริมการเกษตร และ มทบ.18 ยืนยันไม่มีชื่อของผู้กองเดียร์เป็นเจ้าหน้าที่ในสังกัดแต่อย่างใด