สำนักอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์ รายงานว่า "พายุเนสาท" ทวีกำลังอย่างรวดเร็ว กลายเป็นพายุไต้ฝุ่น ความเร็วลม 120 กม./ชม. ขณะพัดขึ้นฝั่งทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์ เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (16 ต.ค.) ส่งผลให้ฝนตกหนักและลมกระโชกแรง น้ำทะลักเข้าท่วมหมู่บ้าน ถนนหนทาง และพื้นที่การเกษตร ประชาชนกว่า 900 ครัวเรือนในจังหวัดคากายัน ต้องอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ด้านประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ เปิดเผยว่า รัฐบาลกำลังจัดส่งความช่วยเหลือไปให้พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
ขนอาวุธสงคราม ปล้นพ่อค้ากัญชา ทำร้ายปางตาย เย็บ 60 เข็ม และเลือดคั่งในสมอง
เกาะลอย โดนน้ำท่วมกว่า 130 หลังคาเรือน นานนับ 3 เดือน
ล่าสุด พายุได้เคลื่อนตัวออกจากฟิลิปปินส์ ลงสู่ทะเลจีนใต้ โดยอยู่ห่างจากหมู่เกาะพาราเซลไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 600 กม. ความเร็วลม 133 กม./ชม. ณะมุ่งหน้าสู่ชายฝั่งภาคกลางตอนบนของเวียดนาม
สำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นและฮ่องกง คาดการณ์ไปในทิศทางเดียวกันว่า ภายในวันอังคารนี้ ไต้ฝุ่นเนสาทจะมีความเร็วลมสูงสุดได้ถึง 145-155 กม. แต่อาจอ่อนกำลังลง ขณะมุ่งหน้าสู่ชายฝั่งจังหวัดกว๋างบิ่ญ (Quang Binh) ไปจนถึงเถื่อเทียน-เว้ (Thua Thien Hue) สำหรับไต้ฝุ่นเนสาท ถือเป็นพายุลูกที่ 6 ของปี ที่พัดผ่านน่านน้ำเวียดนาม และเป็นพายุลูกที่ 3 ที่ถล่มเวียดนาม ในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยพายุลูกล่าสุด ที่เพิ่งถล่มเวียดนามไปเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คือ พายุเซินกา (Son Ca) ซึ่งอ่อนกำลังเป็นพายุดีเปรสชัน ในช่วงคืนวันศุกร์ ก่อนพัดขึ้นฝั่งเวียดนามในช่วงเช้าวันเสาร์ ส่งผลให้เกิดฝนตกหนัก และน้ำท่วมหนักสุดในรอบ 30 ปี ที่เมืองดานัง มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 4 คน และกว่า 2 แสนครัวเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้
ด้านผู้เชี่ยวชาญสภาพอากาศ ระบุว่า เวียดนามจะต้องเผชิญพายุไปอีก 2-3 ลูก จนกว่าจะสิ้นสุดปีนี้