การทำบัตรประชาชน ต้องทำที่อำเภอหรือ เขต ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียน ทำหน้าที่ตรวจสอบสถานะว่าเป็นบุคคลที่มีชื่อในทะเบียนราษฎร์หรือไม่ แต่คนที่มีอำนาจเซ็นอนุมัติ คือ ปลัดอำเภอ
ทีมข่าวไปพุดคุยกับ นายธีระพงค์ พลเกษตร ผู้ช่วยนายทะเบียนอำเภอเมืองสระแก้ว บอกว่า การทำบัตรประชาชนไม่ยุ่งยากเหมือนอดีต แค่พิมพ์ลายนิ้วมือ ถ่ายรูปใหม่ กดพิมพ์ยืนยันลายนิ้วมืออีกครั้ง ก็เสร็จสิ้นขั้นตอน การขอบัตรใหม่ ใช้เวลาไม่เกินคนละ 10 ถึง 15 นาทีเท่านั้น
อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง "ต่างด้าวครองที่ดินได้"
คนเอาบัตรประชาชนลูกที่ติดคุกไปซื้อของหนี้ท่วม
ส่วนกรณีการสวมบัตรประชาชนของคนต้างด้าวนั้น ส่วนตัวมองว่า ทำได้ค่อนข้างยาก เพราะตั้งแต่กระทรวงมหาดไทยเปลี่ยนระบบจัดเก็บฐานข้อมูลเป็นระบบเอไอ มาตั้งแต่ปี 2539 การปลอมบัตรประชาชนพบเจอได้น้อยมาก เพราะมีขั้นตอนการตรวจอัตลักษณ์บุคคลทั้งแสกนใบหน้าและลายนิ้วมือ ถึงแม้จะยังใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบบุคคลนั้นๆ แต่จากฐานข้อมูลเดิมของบุคคล จะมีหลักฐานยืนยันว่า ใช่ตัวตนจริงๆของบุคคลนั้นหรือไม่
อย่างเช่น ปัญหาที่เคยพบก่อนหน้านี้ มีชายคนหนึ่งมาขอทำบัตรประชาชนใบใหม่ ปรากฎว่า ลายนิ้วมือตรงกับฐานข้อมูลเดิม แต่เค้าโครงใบหน้าเปลี่ยนไป ประกอบกับท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบฐานข้อมูลย้อนหลัง พบว่า เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีฉ้อโกง หรือ แม้แต่ส่วนสูงของร่างกาย ก็เป็นส่วนประกอบในการพิจารณาว่า บุคคลที่ขอทำบัตรประชาชนใบใหม่นั้น เป็นคนเดียวกันหรือไม่
ทีมข่าวพูดคุยกับนายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอสันทราย จ.เชียงใหม่ และเป็นประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย มองว่า ปัญหาการสวมบัตรประชาชนที่พบตอนนี้ส่วนใหญ่เกิดมาก่อนที่จะมีการพัฒนาระบบทะเบียนราษฎร์ หากเป็นปัจจุบันมองว่า ทำได้ยากขึ้น แต่ก็มองว่ายังมีข้อบกพร่องอยู่ เพราะปกติการสวมบัตร จะทำในกรณีที่เป็นการทำบัตรครั้งแรก ซึ่งง่ายกว่าการมาสวมบัตรในลักษณะของการต่อบัตรภายหลัง
โดยพบว่า การสวมบัตรประชาชนที่เกิดขึ้น เริ่มตั้งแต่ การที่มีขบวนการที่เข้าถึงระบบทะเบียนได้ ตรวจสอบว่ามีบุคคลใดบ้างที่มีการแจ้งเกิดไว้ แต่ยังไม่เคยทำบัตรประชาชน หรือไม่มีความเคลื่อนไหวทางทะเบียน เช่น ผู้พิการ หรือบุคคลสูญหายที่ยังไม่มีใบมรณบัตร ซึ่งการสวมบัตรมักเกิดในพื้นที่ชายแดนห่างไกล
เมื่อได้รายชื่อบุคคลที่จะสวม ก็จะใช้เพียงการนำใบสูจิบัตรมาแจ้งดำเนินการ และใช้บุคคลที่ในกฎหมายระบุว่าเป็นบุคคลน่าเชื่อถือ มารับรอง ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
แต่กรณีนี้ ส่วนใหญ่หากมีการแจ้งทำบัตรล่าช้า ต้องให้นายอำเภอเซ็นรับรองด้วย จึงจะทำบัตรได้ ซึ่งในการทำบัตรใหม่ ก็ต้องแสกนลายนิ้วมือและแสกนใบหน้า สำหรับเป็นหลักฐานอัตตลักษณ์ในการต่อบัตรครั้งต่อไป
แต่หากเป็นการสวมทะเบียนตอนต่อบัตร จะทำได้ยากกว่า เพราะหากตรวจแสกนลายนิ้วมือแล้วไม่พบ ก็จะสันนิฐานไว้ก่อนว่า เป็นการสวมบัตร แต่ก็ต้องตรวจสอบด้วยว่า เกิดจากลายนิ้วมือจางด้วยหรือไม่ ซึ่งหากจะต่อบัตรให้ปลัดอำเภอก็ต้องตรวจสอบเข้มงวด
นายบุญญฤทธิ์ ยังบอกว่า ในอดีตการทำบัตรครั้งแรก ต้องทำที่อำเภอต้นทาง ซึ่งจะง่ายต่อการตรวจสอบว่า บุคคลที่มาทำบัตรครั้งแรก เป็นบุคคลในทะเบียนราษฎร์บ้านจริงหรือไม่ แต่ปัจจุบันมีการปรับระบบใหม่สามารถทำบัตรที่ไหนก็ได้ ซึ่งนายบุญญฤทธิ์บอกว่า เป็นการอำนวยความสะดวกกันจนละเลยความมั่นคงของประเทศ
นายบุญญฤทธิ์ ยังเสนออยากให้มีการปรับกฎหมาย เพื่อเอาผิดบุคคลที่มีส่วนร่วมในการสวมบัตรประชาชนด้วย เพราะที่ผ่านมาบุคคลที่จะถูกลงโทษตามกฎหมาย มีเพียงเจ้าหน้าที่ แต่ไม่ครอบคลุมถึงผู้ที่มีความร่วมในขบวนการ เช่น บุุคคลที่เป็นผู้รับรองสถานะของผู้ที่สวมทะเบียน
อีกหนึ่งช่องว่างที่ทีมข่าวได้ข้อมูลมา คือการที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียน ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบสถานะบุคคลนั้น บางครั้งเป็นเพียงลูกจ้างชั่วคราว ไม่ใช่ข้าราชการ ซึ่งหากทำผิดโทษที่ได้รับก็อาจไม่ได้สูงมาก