วันที่ 30 พ.ย. 2565 ที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล เข้าพบ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อสอบถามถึงกรณีที่ นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือนอท กองสลากพลัส ได้แจ้งความให้ดำเนินคดีตนเองในความผิดฐานบุกรุกสำนักงานย่านทองหล่อ หรือไม่
นายสันธนะ เปิดเผยว่าก่อนหน้านี้ตนได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้วพบว่ายังไม่เป็นคดีความ เพราะคู่กรณีได้ลงบันทึกประจำวันไว้เท่านั้น
"ชูวิทย์" ลุยแหลกยื่นฟ้อง "สันธนะ" 3 ข้อหาหนัก
สันธนะ VS ชูวิทย์ โต้เดือด! ปมแฉโรงแรมเปิดสถานบันเทิงเกินเวลา-มั่วสุมยาเสพติด
ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพราะตอนนี้พยานหลักฐานที่มียังไม่เพียงพอที่จะดำเนินคดี ซึ่งเรื่องนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่ตนเคยไปพบนายพันธ์ธวัช ถึงสำนักงานแล้ว 3 ครั้ง ตั้งแต่กองสลากพลัสยังไม่ใช้ชื่อนี้ ซึ่งตนไปพร้อมโปรแกรมเมอร์และฝ่ายกฎหมาย เพราะมองว่าธุรกิจขายสลากกินแบ่งของนายพันธ์ธวัช น่าสนใจ แต่ธุรกิจนี้ต้องใช้เงินลงทุน จึงต้องการตรวจสอบเรื่องการเงิน เพราะเจ้าตัวเคยทำธุรกิจร้านขายของชำแต่กลับมีความร่ำรวย และเหตุใดยังต้องเอารถไปจำนำทั้งที่มีธุรกิจเช่นนี้
ส่วนครั้งที่ 3 ที่นายสันธนะ ไปพบนายพันธ์ธวัช ในวันหวยออก พบว่ามีการบันทึกวิดีโอไว้ ทำให้ตนรู้สึกระแวง เพราะถ้าหากบริสุทธิ์ใจก็คงไม่ทำ วันนี้จึงทำหนังสือมาถึงผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเพื่อขอเข้าพบและสอบถามถึงกรณีนี้ ซึ่งตนได้เตรียมรวบรวมหลักฐานไปแจ้งความนายพันธ์ธวัชในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาที่ สน.พหลโยธิน จากการกล่าวหาว่าตนบุกรุกสำนักงานด้วย
ส่วนกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตเจ้าของสถานบันเทิง กล่าวหาว่าตนมีส่วนพัวพันกับกลุ่มทุนจีนสีเทา ตนต้องการไปพบผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อชี้แจงว่าการปราบปรามกลุ่มทุนดังกล่าวของตำรวจมีผู้ที่ต้องการจะตบทรัพย์กลุ่มทุนเหล่านี้ไปมอบข้อมูลให้นายชูวิทย์ ซึ่งคนจีนที่ทำผิดกฎหมายได้หลบหนีไปหมดแล้ว พวกที่ยังอยู่ก็ต้องการลงทุนต่อในไทย
ขณะที่มีรายงานจาก สน.ทองหล่อ ว่า นายพันธ์ธวัช ได้แจ้งความดำเนินคดีนายสันธนะในข้อหาบุกรุกจริง ล่าสุดเตรียมส่งฟ้องอัยการแล้ว แต่นายสันธนะยังไม่เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาและเลื่อนเข้าพบแล้วมาหลายครั้ง