เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2565 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม พร้อมด้วย นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมหารือแนวทางบูรณาการยึดอายัดทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายยาเสพติด
นายสมศักดิ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ปี 2566 ตั้งเป้าที่จะยึดทรัพย์คดียาเสพติดให้ได้ 100,000 ล้านบาท และรู้สึกดีใจที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ แจ้งเบาะแสคดียาเสพติดที่เกี่ยวกับนายตู้ห่าว และหากคดีสิ้นสุดก็จะได้รางวัลนำจับ 5 % จากมูลค่าทรัพย์สินที่ถูกยึดอายัด
“ชูวิทย์” แฉ พล.ต.ต.เพื่อนร่วมรุ่นบิ๊กโจ๊ก เอี่ยวรับส่วยแปลงวีซ่าทุนจีนสีเทา
"สันธนะ" ลั่นฟ้องร้อยล้าน ให้ร้อยเดียว!
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่นายชูวิทย์ แจ้งเบาะแสเกี่ยวกับยาเสพติดช่วยเจ้าหน้าที่อย่างเป็นกลาง และหากคดีของนายตู้ห่าวถึงที่สิ้นสุด มีการยึดอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหา นายชูวิทย์จะได้ค่าตอบแทนนำจับจากการยึดอายัดทรัพย์สิน 5% เช่น หากยึดอายัดทรัพย์สิน 2,000 ล้านบาท รางวัลนำจับก็จะได้ 100 ล้านบาท
ส่วนความคืบหน้ากระบวนการยึดทรัพย์สินคดีนายตู้ห่าวที่มีความกังวลว่าอาจมีการโยกย้ายเงินไปแล้วก่อนถูกดำเนินคดีนั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า หากมีการโยกย้ายให้นอมินี เชื่อว่านอมินีคงไม่ยอมถูกดำเนินคดีแล้วมีการหลบหนี เจ้าหน้าที่ก็จะทำการยึดทรัพย์สินที่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่หากมีการโยกย้ายออกนอกประเทศก็จะประสานไปยังประเทศปลายทางต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาคดีเกี่ยวกับยาเสพติดมีการช่วยเหลือกันอยู่แล้ว
นายสมศักดิ์ กล่าวสด้วยว่า สำหรับประมวลกฏหมายยาเสพติดฉบับใหม่ที่ออกมาล่าสุด เน้นการยึดอายัดทรัพย์ เพื่อตัดวงจรยาเสพติด โดยในปีนี้ตั้งเป้า อายัดยึดทรัพย์ผู้ต้องหาคดียาเสพติดให้ได้ 100,000 ล้านบาท ซึ่งถ้าเทียบกับตัวเลขการผลิตและจำหน่ายยาเสพติดถือว่ายอดการยึดอายัดทรัพย์สินน้อยกว่ามาก โดยปีที่ผ่านมามีการยึดอายัดทรัพย์สินเกี่ยวกับคดียาเสพติดไม่เกิน 900 ล้านบาท