นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตเจ้าของสถานบันเทิ ได้โพสต์คลิปภาพพร้อมข้อความในเพจเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า เสพยาเกินขนาด overdose ที่จินหลิง นายชูวิทย์อ้างว่า ภาพในวงจรปิด ป็นสภาพหลังบ้านที่จินหลิง มีคนจีนเสพยาเกินขนาด ต้องแบกเข้ามาปฐมพยาบาลกันชุลมุนวุ่นวาย พร้อมกับ ทิ้งท้ายไว้ว่า วันนี้ (5 ม.ค.66) บ่าย 2 ผมมีแถลงข่าว เปิดตัวพยานปากเอกที่พบการโอนเงินจากจีนเข้าไทย หิ้วเงินสดไล่ถอนจากแบงก์ ทีละ 20 ล้าน 30 ล้าน โดยพยานทุกคน เข้าปากคำกับอัยการก่อนแล้ว
"ศักดิ์สยาม" จรดลายเซ็น ให้เวลา 15 วัน สอบปมค่าเปลี่ยนป้าย "สถานีกลางบางซื่อ"
ปิดฉาก 7 วันอันตรายปีใหม่ ยอดเจ็บ-ตาย ลดลงเฉลี่ยน้อยกว่า 3 ปีที่ผ่านมา
"อย่าคิดว่าผมไปเสาะหาพยานเองนะครับ ทุกคนเขามาหาผม แทนที่จะไปหาทีม ผบช.น. ด้วยคำตอบสั้นๆ แต่ได้ใจความว่า “ไม่ไว้ใจตำรวจ” โปรดติดตามตอนต่อไปโดยก่อนหน้าที่คุณชูวิทย์ จะโพสต์ข้อความนี้ ทีมข่าวพีพีทีวี ได้เข้าไปพูดคุยมาก่อนเบื้องต้นแล้ว คุณชูวิทย์ ระบุว่า วันนี้จะอธิบายให้ฟังอย่างละเอียด พร้อมกับหลักฐาน พยานต่างๆ ที่จะมาร่วมด้วย และถ้าหากเตรียมพยานหลักฐานอีกชุดหนึ่งได้ทัน จะแถลงด้วยว่านายตู้ห่าวมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับบุคคลหนึ่ง ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ
ส่วนประเด็นที่เมื่อวานนี้ มีการแถลงข่าวความคืบหน้าของคดี ตู้ห่าว ช่วงหนึ่งที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กล่าวถึงกรณีที่นายชูวิทย์ ออกมาปล่อยคลิปหลักฐานผับจินหลิงบนโลกออนไลน์ ว่า อาจจะเป็นช่องโหว่ให้ผู้ต้องหานำไปต่อสู้คดีก็ได้ ดังนั้นหากนายชูวิทย์มีหลักฐานอะไรอยู่ในมือก็ควรจะนำมามอบให้กับตำรวจหรืออัยการจะดีกว่า
เรื่องนี้ นายชูวิทย์ บอกว่า เขาไม่มีทางนำไปให้กับตำรวจแน่นอน เพราะทุกอย่างตั้งต้นจากความไม่ไว้ใจ แม้แต่พยานที่วิ่งมาหานายชูวิทย์ก็เพราะไม่ไว้ใจตำรวจเช่นกัน อีกทั้งก่อนหน้านี้ก็เคยนำข้อมูลสำคัยไปมอบให้แล้ว แต่กลับไม่ปรากฏในสำนวน หลังจากนี้หลักฐานสำคัญจะไปอยู่ในมืออัยการ และเขาจะเอาหลักฐานไปยื่นให้กับ ป.ป.ช.ด้วย ให้เอาผิดกับตำรวจ ใน ม.157 เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่
นายชูวิทย์ ยังยืนยันว่า ต้องการให้ปลด ผบช.น. เหมือนเดิม แต่ ผบ.ตร.กลับบอกว่า ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ต้องให้โอกาสคนทำงาน เรื่องนี้นายชูวิทย์บอกว่า รู้แล้วว่าทำไม ผบ.ตร.ต้องออกมาปกป้อง ผบช.น.ขนาดนี้