เปิดใจ! กู้ภัยถ่ายรูปเสี่ยเบนท์ลีย์ถึงรพ.ตร.


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ยังเป็นปริศนา สำหรับการตรวจเลือดและเหตุการณ์ต่างๆ ของ กรณี รถเบนท์ลีย์ ชนรถปาเจโร่ และ รถกู้ภัย ว่า สรุป ช่วงเวลาต่างๆเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง เพราะ แต่ละคน พูดไม่ตรงกันเลย ล่าสุดมีข้อมูล จากฝั่งกู้ภัยออกมาเพิ่ม โดยอ้างอิง เวลาตามภาพและคลิปที่ถ่ายในโทรศัพท์ ยืนยันว่า กว่า คนขับรถเบนท์ลีย์จะถูกพาไปรพ.ตำรวจ ก็ปาเข้าไป ตี 4 ครึ่งแล้ว

ภาพ ที่โรงพยาบาลตำรวจ เป็นภาพ คนขับรถเบนท์ลีย์ถูกพาตัวไปส่งโรงพยาบาล เพื่อตรวจเลือด หา ค่าแอลกอฮอล์ในเลือด หลังไม่ยอมเป่าตามขั้นตอน ข้อมูลในโทรศัพท์ ของคนที่ถ่ายภาพ ระบุว่า ภาพนี้ถ่ายตอน 04.35น. วันที่ 8 มกราคม 2566

หรือคลิปที่ถูกเปิดออกมาก่อนหน้านี้ ว่า คนขับรถเบนท์ลีย์ นั่งอยู่ที่สถานีตำรวจ โทรศัพท์คุยกับใครบางคน ความยาวคลิปนี้ 17 วินาที เวลาที่ถ่ายคือ 02.52น. และหากไล่เรียงจากภาพและคลิปวิดิโออื่น ตามไทม์ไลน์

บช.น. แจงปม“เบนท์ลี่ย์”ชนบนทางด่วน แจ้ง 3 ข้อหาคนขับ นำตัวฝากขังแล้ว

ศาลให้ประกันตีราคา 1 แสนบาท “เสี่ยเบนท์ลีย์” รอดนอนคุก

แหล่งข่าวบอกว่า อุบัติเหตุเกิดบนทางด่วน ตอน 00.35 น. จากนั้น 01.44 น. คนขับเบนท์ลีย์ พยายามหลบหนี ด้วยการขึ้นรถแท็กซี่

ถัดจากนั้น แท็กซี่ขับไปส่งผู้ก่อเหตุ ที่ สน.ทางด่วน 1 ตอน 01.51น. และ 02.52น. ปรากฎคลิป คนขับเบนท์ลีย์ นั่งคุยโทรศัพท์-เคี้ยวหมากฝรั่ง อยู่ที่สน.

จากนั้น ถูกพาไปตรวจเลือดตอน 04.35 น. และ พบว่า เดินออกจาก โรงพยาบาลตำรวจ ตอน 05.30น.

ผู้สื่อข่าว เดินทางไปพบกับกู้ภัยที่เป็นเจ้าของภาพถ่ายเหล่านี้ เธอไล่เรียง ว่า จากที่เธอติดตามเรื่องนี้ ส่วนตัวมองว่า ตำรวจไม่ได้มีความพยายามจจะทำให้ คนขับรถเบนท์ลีย์ ตรวจแอลกอฮอล์ตั้งแต่แรก แม้ว่าอาสาสมัครกู้ภัยหลายคนจะพยายามขอร้องให้ตำรวจเป่าแอลกอฮอล์กับผู้ชายคนนี้แต่ตำรวจกลับบอกว่าที่นี่ไม่มีเครื่องเป่าแอลกอฮอล์ถ้าจะตรวจต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลเท่านั้น

อาสาสมัครกู้ภัยคนนี้บอกว่าเธอไม่ได้พูดขึ้นมาลอยๆแต่เธอมีหลักฐานมายืนยันว่าตำรวจบอกว่าไม่มีเครื่องเป่าแอลกอฮอล์จริงๆ ซึ่งหลักฐานอยู่ในคลิปคลิปนี้

คลิปนี้อาสาสมัครกู้ภัยบังเอิญไปถ่ายจังหวะที่คนขับรถหรูพยายามที่จะเคี้ยวหมากฝรั่งอยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อเราฟังเสียงจากในคลิปจะได้ยินเสียงกู้ภัยคนอื่นๆพูดคุยกับตำรวจที่โรงพัก ซึ่งในเสียงจะได้ยินผู้ชายคนหนึ่งพูดว่าที่นี่ไม่มีเครื่องเป่าแอลกอฮอล์ต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลเท่านั้น สอดคล้องกับข้อมูลที่อาสาสมัครกู้ภัยคนนี้ให้เรามา

ประเด็นเรื่อง ไม่มีเครื่องเป่า กลายเป็นอีกเรื่องที่ไม่ตรวจกัน เท่ากับตอนนี้มี 3 เรื่องที่เกี่ยวกับการเป่าแอลกอฮอล์ คือ คนขับรถเบนท์ลีย์ ขอเจาะเลือดแทนเป่าแอลกอฮอล์ คนขับรถเบนท์ลีย์อ้างว่าเจ็บหน้าอก จึงไม่เป่า และ ล่าสุด คือ ไม่มีเครื่องเป่าแอลกอฮอล์ 

กู้ภัย คนนี้ ยังบอกอีกว่า เธอ ตามตั้งแต่ที่ สถานีตำรวจ ไปจนถึงโรงพยาบาลตำรวจเพื่อส่งตัวคนขับเบนท์ลีย์ไปตรวจเลือด ยืนยันได้ว่า คนขับรถเบนท์ลีย์ ถูกพาตัวไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาลตำรวจตอน 04.35 น. ตามเวลาที่ปรากฏในภาพถ่าย เพราะฉะนั้นกว่าจะได้ตรวจเลือดก็น่าจะประมาณตี 5 ไม่ใช่เวลาตี 1 กว่าๆเกือบตี 2 ตามที่ตำรวจออกมาให้ข่าวก่อนหน้านี้แน่นอน สาเหตุที่เธอติดตามไปถึงโรงพยาบาลเป็นเพราะไม่ไว้ใจว่าคู่กรณี จะไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาลจริงหรือไม่ เพราะมันมีเหตุการณ์แปลกๆเกิดขึ้นก่อนหน้านั้น

คือช่วงเวลาประมาณ 02:00 น กว่าๆจู่ๆที่โรงพักมีชายปริศนาโผล่มา 1 คน อ้างว่าเป็นอดีตอธิบดีกรมหนึ่ง และเป็นว่าที่หัวหน้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่งด้วย เดินทางมาขอคนขับรถหรู บอดว่าเป็นเพื่อน ดูเหมือนจะพยายามมาเคลียร์คดีให้ โดยระหว่างนั้นชายปริศนาคนนี้ได้สั่งให้ลูกน้อง 1 คนไปซื้อน้ำดื่มมาให้กับคนขับรถหรูจำนวน 3 ขวด และเมื่อถึงเวลาต้องส่งตัวไปตรวจเลือดคนขับรถหรูก็ไม่ได้ไปบนรถตำรวจ แต่นั่งรถไปกับชายปริศนาคนนี้แทน เธอจะไม่ไว้ใจ ติดตามไปจนถึงโรงพยาบาลตำรวจ

ขณะที่ นาย ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ถูกพาดพิงว่า เป็น ชายปริศนาที่ไปช่วยคนขับรถเบนท์ลีย์ ล่าสุดออกมา ยืนยันว่า ไม่ใช่เขาแน่นอน ข่าวนี้ไม่เป็นความจริง พร้อมท้าว่า หากคนพูด หรือ คนให้ข่าว มีหลักฐานยืนยัน ว่า ตัวเขาไปช่วยเหลือคดีนี้ พร้อมจะลาออกจากตำแหน่งอธิบดีเลย มั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเอง

นายไตรยฤทธิ์ ยังบอกอีกว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ ยุคที่เขาเป็นผู้บริหาร พร้อมให้ตรวจสอบทุกเรื่อง ไม่มีปิดบัง

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์


TOP สังคม

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ