พลเรือเอกเชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เปิดเผยความคืบหน้ากรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปางเมื่อช่วงกลางเดือนธันวาคม 2566 ว่า แม้จะผ่านเหตุการณ์ไปแล้ว 54 วัน แต่ขณะนี้กองทัพเรือยังคงมุ่งมั่นในการค้นหาผู้สูญหายอีก 5 คน โดยยังคงจัดกำลังค้นหาพื้นที่ชายฝั่ง จังหวัดประจวบคีรีขันพธ์และจังหวัดชุมพรอย่างต่อเนื่อง
พร้อมกันนี้ กองทัพเรือได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว โดยมีเสนาธิการทหารรือเป็นประธาน
แบ่งคณะทำงานเป็น 2 ชุด ประกอบด้วย 1.หาสาเหตุที่เรืออับปาง 2.หลังเรืออับปางแล้วมีการดำเนินการตามขั้นตอนช่วยเหลือค้นหาอย่างไร
พลเรือเอกเชิงชาย กล่าวว่า ปัจจุบันผลการสอบสวนมีความก้าวหน้าตามลำดับ สอบปากคำคนเกี่ยวข้อง 289 ราย ผลการสอบสวนครบถ้วนเรียบร้อย อยู่ระหว่างเรียบเรียงผลการสอบสวน โดยได้นำข้อมูลมาพิจารณาอย่างรอบด้านทั้งหมด
ทัง้นี้ เรือหลวงสุโขทัย จมลงมีสาเหตุหลักมาจากน้ำเข้าเรือ เรือไม่สามารถสูบน้ำออกได้ทัน จนเรือเสียอาการ ทำให้เรือเอียงและจมลงในที่สุด สาเหตุเหล่านี้จะถูกนำมาประมวลหาสาเหตุที่แท้จริง มีการตั้งสมมติฐานหลายประเด็น
ผลการสอบข้อเท็จจริงจากกำลังพลรอดชีวิต ต้องนำมาประกอบกับวัตถุพยานที่อยู่ในเรือสุโขทัยว่าตามคำให้การของผู้รอดชีวิต เขามุ่งประเด็นไปที่จุดไหนบ้าง ดังนั้นต้องดูวัตถุพยานที่อยู่ใต้ทะเล ประกอบกับผลการสอบสวน ก็จะได้ผลการสอบสวนที่แท้จริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
โดยการกู้เรือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะจมอยู่ในน้ำลึก 40-50 เมตร ต้องพิจารณารอบคอบ หากนำขึ้นมา แล้วเกิดอุบัตเหตุทำให้เรือเสียหายเพิ่มขึ้น จึงจำเป็นต้องเฟ้นหาบริษัทที่มีขีดความสามารถนำเรือขึ้นมาได้ ยังมีขั้นตอนการพิจารณาจากบริษัทที่นำเสนอมาอยู่ เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินสูงกว่า 200 ล้านบาทในการดำเนินการ
พลเรือเอกเชิงชาย ยังกล่าวถึงการตรวจสอบเสื้อชูชีพด้วยว่า จากการตรวจสอบ อัตราของ เรือหลวงรัตนโกสินทร์ ที่เป็นเรือรุ่นเดียวกันกับ เรือหลวงสุโขทัย พบว่ามีอัตราเสื้อชูชีพเพียงพอสำหรับกำลังพลในเรือ คือมีมาอยู่ 120-130 ตัว
ต่อมาเราได้ตรวจสอบอัตราเสื้อชูชีพกับกรมพลาธิการ ที่แจกจ่ายให้กับ เรือหลวงรัตนโกสินทร์ และ เรือหลวงสุโขทัย พบว่ามีเสื้อชูชีพ จำนวนทั้งสิ้น 130 ตัว จากนั้นเมื่อดูเรื่องของการเบิกเปลี่ยนเสื้อชูชีพ เพื่อดูตัวเลขล่าสุดว่ามีเสื้อชูชีพจำนวนเท่าไร ก็ยืนยันได้ว่า มีเสื้อชูชีพเพียงพอกับกำลังพลที่อยู่บนเรือหลวงสุโขทัย 105 คน
ส่วนขั้นตอนว่าทำไมบางคนมีหรือไม่มีเสื้อชูชีพ อยู่ในผลการสอบสวน ทั้งในส่วนกำลังพลเรือ กำลังพลที่มาสมทบจาก นย. กับ สอ.รฝ. เรื่องนี้ผลการสอบสวนชัดเจน สามารถชี้แจงให้กับประชาชนได้ เรื่องทั้งหมดจะอยู่ในผลการสอบสวนที่จะมีการชี้แจงประชาชนทั้งหมด
ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาได้เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ทั้งการพิจารณาการให้สิทธิ์ช่วยเหลือเยียวยา มอบเงินเยียวยาให้ญาติผู้เสียชีวิต ทั้งกองทุนน้ำใจไทย เงินประกันภัยชีวิตหมู่ เงินช่วยเหลือจากองค์การทหารผ่านศึก และเงินรับบริจาคจากคนทั่วไป
สำหรับผู้เสียชีวิต ญาติพี่น้องได้รับเงินไปแล้ว 1.4 – 1.9 ล้านบาท ไม่นับรวมสิทธิกำลังพล บำเหน็จตกทอดที่มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท
ผู้รอดชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ 76 คน กองทัพเรือเยียวยา มอบเงินให้แล้วตั้งแต่ 60,000 – 100,000 บาท เพื่อให้เขาได้ไปจัดหา ทรัพย์สินส่วนที่มีการสูญหายไปกับเรือ
สำหรับผู้สูญหาย เราเยียวยาโดยใช้กองทุนน้ำใจไทย และ ประกันชีวิตหมู่ จ่ายเงินแล้ว 1.2 ล้านบาท สิทธิกำลังพลตามระเบียบต้องรอตามขั้นตอนให้ศาลสั่งเป็นผู้สูญหายตามกฎหมายก่อน
อย่างไรก็ตามได้จัดเจ้าหน้าที่ดูแลญาติพี่น้องผู้เสียชีวิต ดูแลเรื่องพิจารณาให้สิทธิกำลังพลเข้ารับราชการทดแทนผู้เสียชีวิตและสูญหาย ปัจจุบันเสนอเรื่องรับบุคคลที่เป็นทายาทผู้เสียชีวิตเข้ารับราชการแล้ว เสนอให้กระทรวงกลาโหมพิจารณาแล้ว