แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ที่จัดพิธีมอบรางวัล สื่อมวลชนเพื่อสิทธิมนุษยชน โดยปีนี้ พีพีทีวี คว้า 2 รางวัล จากการนำเสนอเนื้อหา ในรายการเข้มข่าวค่ำ และ รายการสารตั้งต้น
สำหรับรายการเข้มข่าวค่ำ ได้รางวัลจากผลงาน “ขยายผลคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา จากกรณี พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ปรากฏตัว” พีพีทีวี เป็นสื่อโทรทัศน์ที่แรกที่ได้สัมภาษณ์ พล.ต.ต.ปวีณ ผ่านวิดีโอคอลจากออสเตรเลีย
ผบ.ทสส. เสียใจเหตุรถถังเบา Scorpion จนทหารเสียชีวิต 2 นาย
ทบ.ตั้งกก.สอบเหตุรถถังคว่ำทหารดับ 2 นาย สั่งจัดพิธีศพอย่างสมเกียรติ
โดย น.ส.นงนภัส พัฒน์แช่ม ผู้สื่อข่าวพีพีทีวี เปิดเผยถึงเบื้องหลังผลงานชิ้นนี้ ว่า ตั้งต้นจากเอกสารคำขอลี้ภัยของ พล.ต.ต.ปวีณ ที่ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล เปิดอภิปรายในสภา จากนั้น แปลเอกสารคำขอลี้ภัย ในเอกสารกล่าวถึง อดีต ผบ.ตร.หลายคน จากนั้น ขยายไปโทรศัพท์เช็กกับผู้ที่ถูกพาดพิง
และ ผู้สื่อข่าวคนอื่นๆ ของพีพีทีวี ก็ช่วยกัน หาข้อมูลเทียบเคียง ทั้งจากบทความที่ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ เคยเขียนลงเว็บไซต์ รวมถึงเทียบคำบอกเล่าของแหล่งข่าวกับภาพเหตุการณ์เมื่อปี 2558 เพื่อไขข้อสงสัยให้ได้มากที่สุด ก่อนจะนัดหมายสัมภาษณ์เปิดใจครั้งแรก
ส่วนอีกรางวัลที่ พีพีทีวี ได้รางวัล คือ หมวดสารคดีหรือสารคดีเชิงข่าว ผลงานเรื่อง “มลายูปาตานี” รายการสารตั้งต้น น.ส.ปิติพร เพรามธุรส บรรณาธิการรายการสารคดี เปิดเผยว่า ผลงานเรื่อง “มลายูปัตตานี” เป็นเรื่องเกี่ยวกับการรวมตัวของเยาวชนชาวมุสลิมในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วงวันรายอ มีเยาวชนกว่า 20,000 คน แต่งกายด้วยชุดมลายู เดินทางมาร่วมงาน เป็นปรากฎการณ์การรวมตัวของเยาวชนในพื้นที่ครั้งใหญ่ที่สุดและถูกตั้งคำถามจากรัฐว่าการรวมตัวนี้เป็นการปลุกระดมเยาวชนในพื้นที่หรือไม่
ความยากของงานชิ้นนี้ไม่ได้อยู่ที่การลงพื้นที่ แต่อยู่ที่วิธีการนำเสนอ เพราะเรื่องชาติพันธุ์มลายูในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนถูกโยงกับสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่มาตลอดเกือบ 20 ปี เราจึงเลือกนำเสนอด้วยความระมัดระวังไม่ให้เนื้อหาที่นำเสนอกลายเป็นการปลุกระดมความรุนแรงในพื้นที่ขึ้นมาอีก
ทั้งนี้พีพีทีวียืนยันตั้งมั่นเป็นกระบอกเสียงของคนทุกกลุ่มและเดินหน้าตรวจสอบสิ่งที่ไม่ชอบมาพากลต่อไป ตามแบบที่เราเป็นมาตลอด
สำหรับงานประกาศผลและพิธีมอบรางวัล “รางวัลสื่อมวลชนเพื่อสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2565” ที่โรงแรมสุโกศล กรุงเทพ มีผลงานที่ติดโผเข้าชิงกว่า 30 ผลงาน จาก 5 ประเภทรางวัล ได้แก่
- รางวัลข่าวหรือสารคดีเชิงข่าว ประเภทสื่อออนไลน์
- รางวัลข่าวหรือสารคดีเชิงข่าว ประเภทสื่อโทรทัศน์
- สารคดีหรือสารคดีเชิงข่าว ประเภทรายการโทรทัศน์
- ข่าวหรือสารคดีเชิงข่าวที่นำเสนอในรูปแบบคลิปวิดีโอออนไลน์
- ภาพถ่ายในหัวข้อ “Protect the Protest”
