ปฏิบัติการค้นหาตัว “น้องต่อ” วันนี้ ตร.ชุดสืบสวน แบ่งกำลังเดินเท้าหาค้นหาบริเวณป่ารกร้าง ห่างจากบ้านของ “นายพุดและน.ส.นิ่ม” ประมาณ 50 เมตร
ส่วนอีกชุดก็นำเรือ ล่องแม่น้ำท่าจีนเพื่อค้นหาตามริมตลิ่งรกร้าง ติดชายป่าอีกฝั่งหนึ่ง โดยค้นหารอบๆ รัศมี 500 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่เคยค้นหาไปแล้วก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 และ 6 รวมถึงชาวบ้านจิตอาสา ก็ได้มาช่วยกันนำโดรนตรวจจับความร้อนในร่างกายมนุษย์และสัตว์ ขึ้นบินค้นหาเพิ่มเติมในป่าพื้นที่ใกล้เคียงด้วย
"แม่น้องต่อ" รับกุเรื่องชายเสื้อเหลือง
ตร.ส่งสุนัข K9 ค้น 5 จุด หาเบาะแส "น้องต่อ" หายตัวปริศนาเป็นวันที่ 16
ทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง แต่ก็ไม่พบอะไรที่เป็นเบาะแสเพิ่มเติม
ส่วนด้านคดีวันนี้ 23 ก.พ. 2566 ตำรวจนำตัว น.ส.นิ่ม ไปตั้งแต่เช้า ซึ่งไม่ทราบแน่ชัดว่าไปที่ไหน แต่คาดว่าถูกนำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติม หลังจากเมื่อวานนี้ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกมาให้ข้อมูลว่า “น.ส.นิ่ม” ให้การกลับไปกลับมา และพูดไม่จริงในหลายประเด็นโดยเฉพาะเรื่องที่อ้างว่าเห็นชายเสื้อเหลืองอุ้มลูกไป ทั้งที่ความจริงแล้วไม่ได้เห็น ทำให้ตอนนี้แนวทางการสอบสวนมุ่งเป้าไปที่ตัว “น.ส.นิ่ม” เป็นหลัก
ล่าสุด เพจดาวแปดแฉก ยังเปิดประเด็นเพิ่มว่า คืนวันเกิดเหตุนิ่มไม่ได้นอนอยู่ในบ้าน แต่เพิ่งกลับมาตอนเช้า ยิ่งทำให้หลายคนตั้งข้อสงสัยว่านี่อาจเป็นอีกประเด็นที่ “นิ่ม” พูดไม่จริง
ทีมข่าวพยายามหาคำตอบเรื่องนี้ จึงไปพูดคุยกับ “ป้าเล็ก” พี่สะใภ้ของนิ่มได้เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ในวันที่น้องต่อหายออกจากบ้านนั้น ช่วงประมาณ 05.50 น. มีคนมาซื้อของที่หน้าร้าน “ป้าเล็ก” ก็เดินออกไปขายของ ระหว่างนั้นสังเกตว่า นายพุด กับ น้องต่อ นอนอยู่ตรงที่นอน ส่วนน.ส.นิ่ม ไม้ได้อยู่ในบ้าน
หลังจากนั้นไม่นาน ก็เห็นว่า “น.ส.นิ่ม” เดินกลับเข้ามาในบ้านแล้วก็นอน ทำเหมือนปกติไม่มีอะไร ซึ่งตัวป้าเล็กก็ไม่ได้สังเกตอะไร และไม่ได้ทักท้วง หรือ พูดคุยกับนิ่ม จนกระทั่ง “น้องต่อ” หายไป ก็ยัง งงที่นิ่มให้สัมภาษณ์ว่า ตื่นมาชงนมให้ลูกตอนตี 5 ก่อนลูกจะหายไป ซึ่งเป็นเรื่องไม่จริง
ซึ่งป้าเล็กบอกว่า รู้ตั้งแต่แรกแล้วว่านิ่มโกหก และไม่เคยเชื่อคำพูดของนิ่มเลย แต่ก็ไม่รู้ว่า “น้องต่อ” หายไปไหน และสาเหตุอะไร ก็อยากขอให้นิ่มพูดความจริงสักที เรื่องจะได้จบ
มีรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่พยามไล่ภาพกล้องวงจรปิด โดยเฉพาะวันเกิดเหตุ ช่วงเวลาเวลาตี 5 ก่อนเด็กจะหายไป ว่าพบพิรุธของบุคคลใดที่ขี่รถเข้าออกหรือไม่ รวมถึง แกะรอยหาเบาะแสของกล้องวงจรปิดบริเวณแวดล้อม ตรวจสอบรถนับร้อยคัน แต่ก็ยังไม่พบว่ามีรถจากนอกพื้นที่เข้ามาภายในหมู่บ้าน
รวมถึงยังเร่งสอบปากคำ “น.ส.นิ่ม” ซึ่งตอนนี้ตำรวจให้น้ำหนักที่แม่ของเด็กเพียงคนเดียวเท่านั้น หลังจากพบว่า “นิ่ม” ให้ข้อมูลบางประเด็นที่ชวนให้เกิดความสงสัย และสับสน.