"ทะเลดำ"พื้นที่ยุทธศาสตร์ทางทะเลท่ามกลางการแข่งขัน


โดย PPTV Online

เผยแพร่




เกิดการเผชิญหน้าทางอากาศระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซียเหนือน่านฟ้าในทะเลดำซึ่งเป็นเขตน่านฟ้าสากล โดยเครื่องบินรบของรัสเซีย 2 ลำ ได้ทำลายโดรนสอดแนมของสหรัฐฯ จนเสียหายและต้องนำลงมาจากน่านฟ้า

นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เกิดการโจมตีสกัดโดรนของสหรัฐฯ นับตั้งแต่เกิดสงครามมานานเกือบ 13 เดือน หลังจากเกิดเหตุ สหรัฐฯ ได้ออกมาประณามการกระทำของรัสเซียว่า ไม่เป็นมืออาชีพ ประมาทเลิ่นเล่อ และเสี่ยงต่อการยกระดับความขัดแย้ง

พลอากาศจัตวาแพทริก ไรเดอร์ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้เปิดแถลงข่าวให้รายละเอียดเหตุการณ์ในครั้งนี้ว่า ในขณะที่อากาศยานไร้คนขับหรือโดรนรุ่นเอ็มคิวไนน์ รีปเปอร์ (MQ-9 Reapper) ของสหรัฐฯ บินอยู่เหนือน่านฟ้าทะเลดำในเขตที่เป็นน่านฟ้าสากลเพื่อปฏิบัติภารกิจตามปกติ

ระทึก! เครื่องบินรบรัสเซีย ชนโดรนสหรัฐฯร่วง เหนือทะเลดำ

ย้อนเหตุการณ์สำคัญ 1 ปี สงครามรัสเซีย-ยูเครน

ปรากฎว่ามีเครื่องบินรบรุ่นซุคฮอย ซู-27 (SU-27) ของรัสเซีย 2 ลำ บินเข้ามาประกบก่อนจะพ่นน้ำมันใส่บริเวณส่วนหน้าของโดรน หลังจากนั้น เครื่องบินรัสเซียลำหนึ่งก็บินขวางหน้าโดรนในรูปแบบหรือลักษณะที่ไม่ปลอดภัย ก่อนจะชนจนทำให้ใบพัดของโดรนเสียหาย เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอยู่ราว 30-40 นาที หลังจากนั้น สหรัฐฯ จึงตัดสินใจบินโดรนที่เสียหายจมลงไปในทะเลดำ

ขณะเดียวกัน วุฒิสภาของสหรัฐฯ ก็ได้ออกมาแสดงความไม่พอใจเรื่องนี้เช่นกัน โดยชัค ชูเมอร์ ผู้นำวุฒิสภาเสียงข้างมากจากพรรคเดโมแครตระบุในทำนองเดียวกับโฆษกเพนตากอนว่า การกระทำเช่นนี้ถือเป็นการกระทำที่สะเพร่าของกองทัพรัสเซีย และประธานาธิบดีปูตินต้องหยุดพฤติกรรมดังกล่าว ก่อนที่จะไปยกระดับความขัดแย้งโดยไม่ตั้งใจ

ด้านทอม คาราโค นักวิชาการอาวุโสจากศูนย์เพื่อการศึกษายุทธศาสตร์และนานาชาติศึกษาหรือ CSIS ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ศึกษาด้านความมั่นคงให้ความเห็นว่า พฤติกรรมดังกล่าวของรัสเซียเป็นการกระทำที่ไร้เหตุผล รวมไปถึงเป็นการยั่วยุและทดสอบสหรัฐฯ

นักวิชาการรายนี้อธิบายว่า โดรนเอ็มคิวไนน์เป็นโดรนที่ใช้ทั่วไป ตั้งแต่เพื่อบรรทุกขีปนาวุธเฮลไฟร์ ไปจนถึงใช้เพื่อการลาดตระเวนหรือสอดแนม แต่โดรนลำที่ถูกโจมตีนี้เป็นโดรนธรรมดา ไม่มีอาวุธ

นอกจากนี้ การกระทำดังกล่าวยังสะท้อนให้เห็นถึงทัศนคติของรัสเซียที่มีต่อเรื่องทะเลดำ ที่รัสเซียคิดว่าน่านฟ้าบริเวณนี้เป็นของตนเอง แม้ว่าตามกฎหมายระหว่างประเทศพื้นที่บริเวณนี้จะเป็นน่านน้ำสากล ที่ทุกชาติมีสิทธิ์ทำการบินได้อย่างเสรี ก่อนที่นักวิชาการรายนี้จะสรุปว่า สหรัฐฯ ควรมีมาตรการที่หนักแน่นและชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น

ขณะเดียวกัน บรรดารัฐมนตรีกลาโหมของชาติพันธมิตรตะวันตกหลายชาติ ก็ได้ออกมาแสดงความเห็นและประณามการกระทำดังกล่าวของรัสเซียเช่นกัน

เริ่มต้นด้วยริชาร์ด มาร์เลส รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมออสเตรเลียที่ออกมาระบุว่า รัสเซียปฏิบัติเรื่องนี้อย่างไม่เป็นมืออาชีพและไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ ซึ่งความไม่เป็นมืออาชีพและไม่เคารพกฎนี้คือใจกลางของปัญหาที่เกิดขึ้นในยูเครนตอนนี้

ด้านเบน วอลเลซ รัฐมนตรีกลาโหมของสหราชอาณาจักรได้คำถามนักข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้แบบสั้น ๆ ว่า สิ่งสำคัญสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นคือทุกฝ่ายต้องเคารพสิทธิเหนือน่านฟ้าสากล และสหราชอาณาจักรก็ขอให้รัสเซียเคารพเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน

ล่าสุดทางกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ทวงถามเรื่องนี้ไปยังรัฐบาลรัสเซียและขอให้รัสเซียออกมาชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ดี ทางรัฐบาลรัสเซียยังไม่ได้ออกมาชี้แจงอย่างเป็นทางการ มีเพียงการให้สัมภาษณ์จากนักการทูตระดับสูงของรัสเซียในสหรัฐฯ เท่านั้น

นาโตลี อันโตนอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหรัฐฯ ได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่า รัสเซียปฏิบัติทุกอย่างแบบมืออาชีพ และกระทรวงต่างประเทศของรัสเซียและสหรัฐฯ ควรหารือเรื่องนี้ร่วมกัน  อย่างไรก็ดี ทูตรัสเซียอ้างว่าโดรนลำนี้บินไปในพื้นที่ต้องห้ามก่อน เพื่อยั่วยุและใส่ความรัสเซีย

ด้านอิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซียได้ออกมาชี้แจงเรื่องนี้เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 14 มีนาคมตามเวลาท้องถิ่น ระบบของกองทัพอากาศรัสเซียตรวจจับโดรนเอ็มคิวไนน์ รีปเปอร์ของสหรัฐฯ ได้

โดยโดรนดังกล่าวมุ่งหน้าเข้าไปยังแหลมไครเมีย และละเมิดข้อห้ามด้านการบิน เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตหวงห้าม เพราะรัสเซียกำลังปฏิบัติการพิเศษทางการทหาร ซึ่งรัสเซียได้แจ้งให้ทุกประเทศรับทราบและเข้าใจตรงกันแล้ว

ทำให้รัสเซียต้องส่งเครื่องบินเจ็ทขึ้นไปขับไล่ แต่สาเหตุที่ทำให้โดรนตกนั้นเป็นเพราะเสียการควบคุม โดยเครื่องบินรบรัสเซียไม่ได้ใช้อาวุธจู่โจมหรือโจมตีโดรนดังกล่าวและกลับเข้าฐานอย่างปลอดภัย

ขณะเดียวกัน ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซียให้ความเห็นว่า รัฐบาลไม่มีสิ่งใดจะชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องโดรน ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ทวิภาคีกับสหรัฐฯ นั้นไม่ได้แตกต่างไปจากเดิม เนื่องจากความสัมพันธ์ของทั้งสองชาติอยู่ในจุดตกต่ำที่สุดอยู่แล้ว แต่ทางการรัสเซียไม่ปฏิเสธและจะไม่มีทางปฏิเสธเจรจาอย่างสร้างสรรค์

ทะเลดำอยู่ที่ไหน สำคัญอย่างไร แล้วทำไมสหรัฐฯ จึงอาจบินโดรนเหนือทะเลดำเพื่อไปยังคาบสมุทรไครเมียทะเลดำมีพื้นที่ประมาณ 436,400 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ตรงใจกลางของประเทศบัลแกเรีย โรมาเนีย ยูเครน รัสเซีย จอร์เจีย และตุรกี

ทะเลดำตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างเอเชียกับยุโรป เป็นจุดที่เชื่อมเอเชียให้เข้ากับทะเลอีเจียนและทะเลเมดิเตอร์เรเนียนของยุโรป โดยผ่านช่องแคบบอสฟอรัสและดาร์ดาแนลส์ของประเทศตุรกี

พื้นที่ทะเลดำเป็นที่ตั้งของท่าเรือกว่า 30 แห่ง เป็นทางผ่านที่สำคัญของเรือสินค้าเพราะเป็นทะเลน้ำอุ่นที่เรือสามารถเดินทางผ่านไปตลอดทั้งปี

ด้วยลักษณะทางภูมิรัฐศาสตร์ของทะเลดำ หากชาติใดที่ครอบครองหรือมีอิทธิพลเหนือพื้นที่นี้ได้ ก็จะได้เปรียบทั้งทางด้านการค้าและการทหาร ทะเลแห่งนี้จึงเป็นที่หมายปองของแทบทุกชาติรวมถึงรัสเซียด้วย

การมีอำนาจในทะเลดำที่เชื่อมต่อกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้ถือเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ความมั่นคงของรัสเซียเพราะชาติปฏิปักษ์ที่สำคัญของรัสเซียอย่างสหรัฐฯ และนาโต มีฐานทัพใหญ่อยู่ใกล้ทะเลดำ อย่างฐานทัพอากาศคอนสตันซา ซึ่งตั้งอยู่ชายฝั่งของประเทศโรมาเนีย

ทางสหรัฐฯ และนาโตได้ติดตั้งอุปกรณ์ต่อต้านขีปนาวุธ และขีปนาวุธต่อต้านทางอากาศขนาดใหญ่ไว้ที่ฐานทัพแห่งนี้

โดยรัสเซียมองว่า นี่คือภัยคุกคามความมั่นคงของตนเอง เป็นเหตุให้รัสเซียต้องพยายามคุมบางส่วนของทะเลดำ เพื่อสร้างดุลอำนาจและป้องปรามการโจมตีจากสหรัฐฯ และนาโต

นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้รัสเซียตัดสินใจเข้าผนวกแคว้นไครเมียของยูเครน ซึ่งมีพื้นที่ติดทะเลดำ เข้ามาเป็นของตนเองเมื่อปี 2014 หรือเมื่อ 9 ปีก่อน 

การยึดไครเมียทำให้รัสเซียมีฐานที่มั่นในทะเลดำ รวมถึงมีท่าเรือน้ำอุ่นเป็นของตนเองหลังจากก่อนหน้านี้ หากต้องการเดินเรือไปยุโรป รัสเซียต้องอาศัยทางออกบริเวณที่เรียกว่าอาร์กติกเซอร์เคิล ซึ่งเป็นทะเลน้ำแข็งยากต่อการเดินเรือ

การผนวกไครเมียของรัสเซียถูกประท้วงจากประชาคมโลก และมีผลทำให้พื้นที่บริเวณคาบสมุทรไครเมีย รวมถึงทะเลดำร้อนกลายเป็นจุดร้อนตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

อย่างไรก็ดี สถานการณ์ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังจากยูเครนประกาศชัดเจนว่าจะชิงไครเมียคืนจากรัสเซียให้ได้

โดยเมื่อปีที่แล้วหลังถูกรัสเซียเข้ารุกราน ยูเครนเคยส่งโดรนไปลอบโจมตีในหลายพื้นที่ของแคว้นไครเมีย โดยเฉพาะที่สำนักงานใหญ่ของกองทัพเรือรัสเซียในเมืองเซวัสโตปอล ฐานทัพอากาศซากี และฐานทัพอากาศชานกี

ทำให้ตอนนี้รัสเซียประจำการกำลังไว้ที่ฐานทัพเซวัสโตปอล ในแคว้นไครเมียอย่างหนาแน่น เพื่อเตรียมรับมือการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ขณะที่นาโตและสหรัฐฯ ก็ทำการลาดตะเวนในทะเลดำถี่ขึ้น จนนำมาสู่เหตุการณ์ล่าสุดคือ การเผชิญหน้าระหว่างเครื่องบินรบของรัสเซียกับโดรนของสหรัฐฯ

โดรนที่สหรัฐฯ ส่งไปลาดตระเวนในทะเลดำก็ไม่ใช่โดรนธรรมดา แต่เป็นโดรนที่ดีที่สุดตัวหนึ่งของกองทัพที่มีชื่อว่า "โดรนเอ็มคิวไนน์ รีปเปอร์ (MQ-9 Reaper)"

โดรนเอ็มคิวไนน์ รีปเปอร์ (MQ-9 Reaper) ถูกนำมาประจำการตั้งแต่ปี 2007 เพื่อทำภารกิจสอดแนมและโจมตีทางอากาศ

อากาศยานไร้คนขับรุ่นนี้มีขนาด 20 เมตร ตัวโดรนเปล่ามีน้ำหนักประมาณ 2 ตัน สามารถบินได้ไกล 1,850 กิโลเมตร ด้วยความเร็วสูงสุดที่ 480 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และบินที่ระดับเพดานบินสูงสุด 15,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล

นอกจากเรื่องความเร็ว โดรนเอ็มคิวไนน์ รีปเปอร์ สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างเงียบเชียบ เนื่องจากใช้เครื่องยนต์แบบใบพัดตัวเดียว ทำให้ยากต่อการตรวจจับ แม้จะอยู่ใกล้เป้าหมายเพียงไม่กี่ร้อยเมตร

โดรนรุ่นนี้สามารถบรรทุกหรือติดระเบิดและขีปนาวุธได้หลายประเภท เช่น ขีปนาวุธเฮลล์ไฟร์ AGM-114, ระเบิดนำวิถีด้วยเลเซอร์ GBU-12 Paveway III ซึ่งมีความแม่นยำในการโจมตีสูง เนื่องจากล็อกเป้าหมายด้วยระบบดาวเทียม

ทั้งหมดนี้ทำให้ MQ -9 รีปเปอร์ ได้รับฉายาว่าเป็นโดรนที่น่าเกรงขามที่สุดในโลก และถือเป็นโดรนในอุดมคติสำหรับภารกิจสอดแนมหรือภารกิจลอบโจมตี โดยปฎิบัติการของ MQ -9 รีปเปอร์ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคราวหนึ่งเกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อน

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 3 มกราคม ปี 2020 โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะนั้น สั่งการให้กองทัพสหรัฐฯ ส่งโดรนรุ่นนี้ไปสังหาร นายพลกอซิม สุไลมานี จนเสียชีวิตทันที ขณะที่นายพลรายนี้กำลังออกจากสนามบินในกรุงแบกแดดของอิรัก

โดยนายพล สุไลมานี เป็นผู้นำกองกำลังคุดส์ หน่วยรบพิเศษที่สังกัดกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิสลาม มาตั้งแต่ปี 1998 และยังอยู่เบื้องหลังกิจกรรมสำคัญต่างๆ ของอิหร่านที่มีอิทธิพลในตะวันออกกลาง

นี่ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดสงครามยูเครนที่มีการปะทะกันระหว่างเครื่องบินของรัสเซียและอากาศยานไร้คนขับของสหรัฐฯ

หลายฝ่ายกังวลว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นที่จะเกิดการเผชิญหน้าโดยตรงระหว่าง 2 ชาติ ซึ่งกำลังมีปัญหากันอยู่ในสงครามยูเครน

PR-โปรแกรมผลบอล-2_B PR-โปรแกรมผลบอล-2_B
TOP สังคม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ