จากกรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ลงพื้นที่บุกแฉ ร้านขายกัญชา หน้า ร.ร.เซนต์โยเซฟคอนแวนต์ พร้อมตั้งคำถามว่ากระทรวงสาธารณสุขทำอะไรอยู่ อนุญาตไปได้ไง
ขณะที่ผู้ปกครองของนักเรียนโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ ย่านสีลม เกิดความกังวลที่ฝั่งตรงข้ามโรงเรียนมีร้านจำหน่ายสินค้าจากพืชกัญชามาเปิดให้บริการ โดยภายในร้านมีอุปกรณ์สำหรับการสูบและมีพื้นที่ให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการสูบกัญชาภายในร้านได้ ซึ่งอาจส่งผลต่อความปลอดภัยของเด็กนักเรียน
เมื่อตรวจสอบไปยัง ผู้บังคับใช้กฎหมายในคดียาเสพติด ได้ให้ข้อมูลที่ชี้ให้เห็นช่องว่างใหญ่ ของการปลดล็อกพืชกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดโดยไม่มีกฎหมายตามออกมาควบคุม ซึ่งรวมไปถึงการเปิดช่องให้ผู้ประกอบการสามารถเปิดร้านให้ลูกค้าเข้ามาสูบกัญชาในร้านได้ โดยไม่มีข้อกำหนดเกี่ยวกับพื้นที่ในการอนุญาตให้ตั้งร้าน
โดยการเปิดคาเฟ่กัญชา สามารถเปิดได้ทุกที่ เพราะในประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่ลงนามโดยนายยอนุทิน ชาญวีรกูล กำหนดให้ค่าเฟ่กัญชา จะถูกควบคุมเพียงแค่ต้องเปิดโดยมีแพทย์แผนไทยรับรองและห้ามจำหน่ายให้เยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี เท่านั้น แต่ไม่มีข้อกำหนดว่าต้องอยู่ห่างจากสถานศึกษาเป็นระยะทางเท่าไหร่ ซึ่งต่างจากการเปิดร้านเหล้า ที่กำหนดว่าจะต้องอยู่ห่างจากสถานศึกษาอย่างน้อย 500 เมตร
ไม่มีกฎหมายควบคุมเรื่องพื้นที่เปิดร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากกัญชาเลย นี่คือสิ่งที่แย่มาก เพราะมันเปิดที่ไหนก็ได้ เปิดหน้าโรงเรียนแบบนี้ก็ได้ ขณะที่ร้านเหล้ายังถูกห้ามเปิดใกล้โรงเรียน
ผู้บังคับใช้กฎหมายในคดียาเสพติด ยังบอกอีกว่า ที่แย่ไปกว่านั้นคือ ไม่มีข้อกำหนดให้สถานที่จำหน่ายกัญชาต้องอยู่ห่างจากสถานศึกษา อยู่ในร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่ค้างอยู่ในการพิจารณาของสภาฯด้วยเช่นกัน เท่ากับว่า หากผ่านกฎหมายควบคุมพืชกัญชาฉบับดังกล่าวไปทั้งแบบนี้ ก็ยังไม่มีการควบคุมเรื่องพื้นที่ในการตั้งคาเฟ่กัญชาเช่นนี้อยู่ดี
ดังนั้น เมื่อจะต้องพิจารณาร้างกฎหมายกัญชา กัญชง กันใหม่ จึงควรนำประเด็นเรื่องที่ตั้งของร้าน เช่น คาเฟ่กัญชา เข้าไปเป็นประเด็นที่ต้องกำหนดเพิ่มเติมด้วย