กลุ่มจ่าย "ส่วยรถบรรทุก" บล็อกไลน์-สั่งลอกสติกเกอร์ออก

โดย PPTV Online

เผยแพร่

วันนี้มีข้อมูลว่าหลังเรื่องนี้เป็นข่าวดัง ตอนนี้มีการสั่งให้ลอกสติกเกอร์ออกจากรถ และบล็อคไลน์กลุ่มจ่ายส่วยแล้ว

วันที่ 30 พ.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวพีพีทีวี ติดต่อไปยังกลุ่มผู้ขับรถบรรทุกสอบถามเรื่องส่วยสติกเกอร์ ซึ่งก็มีคนขับรถบรรทุกรายหนึ่งให้ข้อมูลว่า ตอนนี้นายหน้าที่รับเคลียร์ด่าน ได้บอกให้คนขับลอกสติกเกอร์สัญลักษณ์ออกแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ตอนนี้พอจะติดต่อคนที่รับทำสติกเกอร์ส่วยได้หรือไม่ คนขับรถบรรทุกบอกว่า ตอนนี้มีการทยอยลบไลน์กลุ่มไปแล้ว ไม่สามารถติดต่อได้ และไม่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติม

โผล่อีก “ส่วยสติ๊กเกอร์” พระอาทิตย์ยิ้มแฉ่ง Ver 8.0

“วิโรจน์” แฉเงินหมุนเวียน "ส่วยรถบรรทุก"หลักหมื่นล้าน

สำหรับสติกเกอร์ส่วยที่ว่านี้หลายคนตั้งข้อสงสัยว่ามีขายตามร้านทั่วไปหรือไม่ ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจร้านขายสติ๊กเกอร์แบบรถเข็น ที่หน้าสถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต พบว่ามีร้านขายสติกเกอร์รถเข็น แบบนี้ 5-6 ร้าน มาตั้งขายทุกวัน สติกเกอร์ที่ขายส่วนใหญ่เป็นแบบเดียวกันทั้งหมด คือสติกเกอร์ข้อความทั่วไป เช่น ในรถมีเด็ก, มือใหม่หัดขับ,ปิดเบา ๆ ,ประตูฉุกเฉิน ,คำคมสิบล้อ

ทีมข่าวเปิดรูปสติกเกอร์ที่ใช้เรียกเก็บส่วยให้พ่อค้าดู อย่างสติกเกอร์รูปพระอาทิตย์ยิ้มแฉ่งหลากสี, สติกเกอร์รูปกระต่าย มีตัวเลขติดบนรูป รูปใบโพธิ์ หรือตัวหนังสือ 3B ทุกคนบอกเหมือนกันว่าไม่เคยเห็น  บางคนขายสติกเกอร์รถเข็นมากว่า 10 ปี ยืนยันว่าไม่เคยเห็น ที่ร้านขายส่งก็ไม่มีสติกแบบนี้ขาย

ทีมข่าวจึงเปิดรูปสติกเกอร์ลายการ์ตูนไจแอนท์ให้พ่อค้าดูอีกที  เขาบอกว่าแบบนี้ไม่มีขายเพราะติดลิขสิทธิ์ เป็นไปได้ว่าสติ๊กเกอร์ที่ใช้อาจสั่งตัดเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งสามารถสั่งตัดตามลวดลายที่ต้องการได้

แต่ก็มีสติกเกอร์บางชิ้นที่หน้าตาคล้ายสติกเกอร์เก็บส่วย อย่างสติกเกอร์รูปแผนที่ประเทศไทย ที่ทีมข่าวได้มามีตัวหนังสือว่า “This is my home” แต่สติกเกอร์ที่เรียกเก็บส่วยจะเป็นลวดลายธงชาติ มีข้อความว่า “เรารักประเทศไทย By Apple”

หรือแม้แต่สติกเกอร์รูปแอ๊ปเปิ้ลสีแดงถูกกัดซีกขวา ด้านบนมีใบไม้สีเขียว เคลือบเงา ร้านรถเข็นมีขายเหมือนกันแต่ลูกแอปเปิ้ลและใบจะเป็นสีเดียวกันทั้งหมดและไม่เคลือบเงา ส่วนสติกเกอร์รูปพระอาทิตย์ยิ้มแฉ่งสีฟ้า ร้านรถเข็นไม่มีลวดลายนี้

หลังจากที่ทีมข่าว ลงพื้นที่หาข้อมูล ก็พบว่าผู้เกี่ยวข้องกับขบวนการสติกเกอร์ส่วย มีส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 5 กลุ่ม ด้วยกัน

คือเจ้าของรถบรรทุก ถ้าจ่ายส่วยก็จะสามารถบรรทุกน้ำหนักได้มากขึ้นหรือเกินกว่าที่กฏหมายกำหนด ถัดมาก็จะเป็นเจ้าของธุรกิจขายหิน ดิน ทราย  เมื่อรถสามารถบรรทุกได้มากขึ้น ก็สามารถลดจำนวนเที่ยวขนส่ง ช่วยลดต้นทุนค่าน้ำมัน ค่าแรงงาน

เงินค่าส่วยจากกลุ่มนี้ จะถูกส่งต่อให้กับนายหน้า หรือโปรกเกอร์ ก็จะแบ่งเป็นค่าดำเนินการสั่งทำสติ๊กเกอร์ที่เป็นสัญลักษณ์เฉพาะไปแจกจ่ายให้กับผู้จ่ายส่วยไว้ติดที่รถ เพื่อการันตีว่าจะไม่ถูกเรียกจากด่านตรวจ

จากนั้นนายหน้าก็จะส่งเงินต่อให้กับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับด่านตรวจ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจท้องที่ และตำรวจส่วนกลาง 

เรื่องนี้มีความเห็นจาก นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอรัปชั่น ที่ออกมาระบุว่า การจ่ายส่วยรถบรรทุก มีมาไม่ต่ำกว่า 30-40 ปี ซึ่งที่ตนเองก็เป็นคนหนึ่งที่เคย ตรวจสอบและ ออกมาเปิดเผยข้อมูลเรื่องนี้

นายวีระ บอกว่า การเอาผิดและแก้ปัญหาส่วยรถบรรทุกไม่ใช่เรื่องง่าย แต่กระดุมเม็ดแรก ในการแก้ปัญหานี้ จะต้องเริ่มจากการปฏิรูป หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะตำรวจแก้โครงสร้างของคนที่จะเข้าไปกำกับดูแลตำรวจด้วย รวมไปถึงปฏิรูปทุกหน่วยงานที่เกี่ยวทั้งระบบ และจะต้องเป็นนโยบายของรัฐบาลไม่ใช่เฉพาะกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งเท่านั้น

ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอรัปชั่น ระบุด้วยว่า หากแก้ปัญหาส่วยรถบรรทุกไม่ได้ คนที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือประชาชนทั่วไป  ซึ่งผลกระทบ ทางตรง คือความไม่ปลอดภัยบนท้องถนน จะเห็นได้ชัดว่าพฤติกรรม ของรถบรรทุกที่จ่ายส่วย รถบรรทุกที่เส้นใหญ่ มีสติกเกอร์ มักวิ่งไม่เกรงใจใคร ขับกลางถนน ขับแช่ขวา ถึงด่านชั่งไม่ยอมเข้าชั่ง ซึ่งเป็นอันตรายกับคนทั่วไป รวมถึง บรรทุกน้ำหนักเกิน จนถนนชำรุดจาก ก็จะย้อนกลับมาเป็น้ภาษีที่ประชาชนทุกคนต้องจ่าย นำเอางบประมาณไปซ่อมแซม เป็นผลกระทบที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

Bottom-PL-HLW Bottom-PL-HLW

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ