อดีตแพทย์หญิงคนหนึ่ง เปิดเผยว่า เมื่อครั้งที่เธอเป็นแพทย์จบใหม่ (intern) ต้องไปใช้ทุนที่โรงพยาบาลในต่างจังหวัด นักศึกษาแพทย์ทุกคนโดยเฉพาะจากสถาบันของภาครัฐ ทราบดีว่าหลังเรียนจบต้องไปเป็นแพทย์ใช้ทุนเป็นเวลา 1 ปี ซึ่งไม่สามารถเลือกสถานที่ได้ และจะต้องไปประจำทั้งโรงพยาบาลขนาดใหญ่ และโรงพยาบาลชุมชน
อดีตแพทย์หญิง บอกว่าสิ่งที่แพทย์จบใหม่ต้องเจอระหว่างใช้ทุนส่วนใหญ่คือเรื่องคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ เช่นบ้านพักที่ไม่มีความปลอดภัย เงินเดือนตกเบิก บางคนรอเงินนาน 6-10 เดือน
กระทรวงสาธารณสุขเตรียมแถลงด่วนวันนี้ ปม“หมอจบใหม่”แห่ลาออก!
แฉ! พิกัดเก็บส่วยรถตู้ "หมาหนาว-เสา22"
แต่ปัญหาเหล่านี้ยังไม่บั่นทอนจิตใจเท่ากับการถูกเอาเปรียบ จากพี่เลี้ยง-แพทย์รุ่นพี่ หรือที่เรียกว่า staff ที่มักโยนภาระงานมาให้แพทย์จบใหม่เช่นให้เข้าเวรแทน หรือการพูดจาดูถูกเหยียดหยาม หรือดุด่าโดยไม่มีเหตุผล เหล่าแพทย์จบใหม่จะเรียนเหตุการณ์นี้ว่า “Toxic staff”
เธอเล่าต่อว่า ตลอดระยะเวลาของเป็นแพทย์ใช้ทุน แทบไม่มีสิทธิมีเสียงใดๆแม้กระทั่งการอนุมัติให้ผู้ป่วยนอนโรงพยาบาล เพราะต้องทำตามวัฒนธรรมขององค์กร เธอเป็นแพทย์ใช้ทุนนาน 9 เดือน และพยายามต่อสู้ในสิ่งที่ถูกต้อง แต่สุดท้ายก็ถูกกดดันจาก staff และผู้บริหาร จึงตัดสินใจลาออก ก่อนใช้ทุนเสร็จและยอมชดใช้เงินที่เหลือ
เธอยอมรับว่า ข้อเสียของการลาออกก่อนใช้ทุนหมดเธอไม่ได้รับรองเพิ่มพูลทักษะ ซึ่งจะมีผลต่อการเรียนต่อแพทย์เฉพาะทาง และเสียเงินเพิ่มเนื่องจากใช้ทุนไม่ครบกำหนด เป็นเงินกว่า 3 แสนบาท แต่เธอยอมเสียโอกาสนั้นเพราะทนกับระบบไม่ไหว
สอดคล้องกับข้อมูลของอาจารย์ที่ปรึกษาและจิตแพทย์ ที่ดูแลนักศึกษาแพทย์และแพทย์จบใหม่ ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่ จ.นครศรีธรรมราช ให้ข้อมูลกับ พีพีทีวีว่า จากประสบการณ์เป็นที่ปรึกษามานานกว่า 10 ปี ปัญหาแพทย์จบใหม่ลาออกไม่ได้มีแค่ปริมาณงานที่มากเกินกำลังหรือค่าตอบแทนที่ไม่คุ้มค่า
แต่ยังมีปัญหาเรื่องของสตาฟ คือพี่เลี้ยงหรืออาจารย์แพทย์ ที่กดดันกลุ่มนักศึกษาแพทย์(extern) และแพทย์จบใหม่ (intern) อย่างไม่มีเหตุผล หรือ “Toxic staff”เพราะแพทย์ทุกคนทราบเป็นอย่างดีก่อนตัดสินใจเรียนแพทย์ว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง และทุกคนก็ยินดีและพร้อมที่จะรับสภาพอยู่แล้ว
สถานการณ์ที่แพทย์จบใหม่เจอ เช่น ถูกปล่อยให้ลอยแพให้อยู่คนเดียว ไม่รับโทรศัพท์ คำพูดดูถูก เหยียดหยาม ปาชาร์ทใส่ ขับไล่ออกจากวอร์ด ไปจนถึงไล่ไปตาย กระโดดตึก ระบายอารมณ์กับแพทย์intern อย่างไม่มีเหตุผล
นอกจากนี้ยังพบว่าสถานการณ์และความกดดันต่างๆ ที่นักศึกษาแพทย์หรือหรือแพทย์จบใหม่เจอ ยังส่งผลต่อสภาพจิตใจ บางคนกลายเป็นผู้ป่วย เกิดภาวะทางจิตเวช หรือเป็นโรคซึมเศร้า
แม้ปัจจุบันจะมีการหลักสูตรพัฒนาอาจารย์แพทย์ แต่ก็ยังมีกลุ่มคนที่เป็นToxic staff และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้