เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ราชกิจจานุเบกษา หน้า 3 เล่ม 14 ตอนพิเศษ 160 ง ลงวันที่ 6 กรกฎาคม 2566 เผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การกำหนดราคาชดใช้แทนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ไม่สามารถส่งคืนตามกฎหมาย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 - 2569
ตามที่กฎหมายว่าด้วยเครื่องราชอิสริยาภรณ์และเหรียญราชการที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันได้บัญญัติให้ผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์และเหรียญราชการต้องส่งคืนชั้นรองเมื่อได้รับพระราชทานชั้นตราสูงขึ้น
"ในหลวง" พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ ชั้น 4 แก่ นางปราณี อุ่นพรม
ประกาศราคาชดใช้แทนเครื่องราชฯ ที่ไม่สามารถส่งคืนได้ ตั้งแต่ 682 บาท ถึงสูงสุด 3.3 ล้านบาท
โปรดเกล้าฯ ปลดข้าราชการในพระองค์ออกจากราชการ-ถอดยศทหาร
หรือผู้รับมรดกของผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่วายชนม์ซึ่งมีหน้าที่ต้องส่งคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ หรือในกรณีที่ทรงเรียกเครื่องราชอิสริยาภรณ์คืน แล้วแต่กรณี แต่ไม่สามารถนำเครื่องราชอิสริยาภรณ์ส่งคืนได้ จะต้องใช้ราคาเครื่องราชอิสริยาภรณ์หรือเหรียญราชการนั้น ประกอบกับ
คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2533 อนุมัติในหลักการให้ปรับราคาใหม่ทุก 3 ปี และพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 มาตรา 7 (4) ได้บัญญัติให้หน่วยงานของรัฐส่งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับ กฎ มติคณะรัฐมนตรี ข้อบังคับ คำสั่ง หนังสือเวียน ระเบียบแบบแผนนโยบาย หรือการตีความ ที่จัดให้มีขึ้นโดยมีสภาพอย่างกฎเพื่อให้มีผลเป็นการทั่วไปต่อเอกชนที่เกี่ยวข้องลงพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา สำนักนายกรัฐมนตรีจึงออกประกาศกำหนดราคาชดใช้แทนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ไม่สามารถส่งคืนตามกฎหมาย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 - 2569 ตามบัญชีท้ายระเบียบนี้
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2566 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2566
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี