หนุ่มหัวร้อน! ได้สินค้าไม่ตรงปก ชักปืนขู่คนส่งของ-ไถเงินคืน

เกิดกรณีหนุ่มสั่งของทางออนไลน์แล้วได้ของไม่ตรงปก จนเกิดอาการหัวร้อนลงมาจากตึก ชักปืนขู่ ขอเงินคืน จากพนักงานส่งของ พร้อมพูดจาข่มขู่

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น หลังนายสุริยา อายุ 25 ปี พนักงานส่งพัสดุ ได้ขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปส่งพัสดุให้ลูกค้า แต่ลูกค้าอ้างว่าได้รับของไม่ตรงปก โวยวายขอเงินคืนก่อนชักปืน พร้อมเรียกพวกมาข่มขู่ หากไม่ให้เงินจะทำร้ายร่างกาย จนกระทั่งผู้เสียหายต้องยอมคืนเงินของตัวเองค่าพัสดุ จำนวน 899 บาท ให้กับลูกค้ารายนี้ ถึงจะถูกปล่อยตัวกลับบ้าน

กระบะคอกหัวร้อน ขับเฉี่ยวหน้าเก๋ง ลงมาไล่ทำร้ายตาม ก่อนซิ่งหนีไป

ลูกค้าหัวร้อน! บุกตบเจ้าของร้านนวด โมโหหลังลืมเงิน 7 พันไว้ในร้าน

หนุ่มหัวร้อนขี่มอเตอร์ไซค์ปาดหน้าชักปืนขู่หลังถูกด่ากลางสี่แยก

รายการโชว์ข่าวเช้านี้

นายสุริยา ผู้เสียหาย กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาส่งพัสดุตามปกติ โดยหน้าซองเขียนชื่อผู้รับคือนายสมชาย ต่อมา หลังจากตนโทรหาลูกค้าก็มีผู้หญิง 1 คน ได้เดินมารับพัสดุและจ่ายเงินสดจำนวน 899 บาท เซ็นรับพัสดุแล้วขึ้นกลับไปคอนโดตามปกติ จากนั้นตนก็ทำงานส่งพัสดุให้กับลูกค้าในคอนโดเมืองทองต่อ แต่ผ่านไปประมาณ 5 นาที ผู้หญิงที่รับพัสดุไปแล้ว ได้เดินลงมาพร้อมกับนายสมชาย ซึ่งเดินลงมาพร้อมท่าทีหัวร้อน ใส่อารมณ์กับตน

โดยนายสมชาย อ้างว่าได้รับพัสดุไม่ตรงปกโดยสั่งเสื้อแจ็คเก็ตไปในราคา 899 บาท แต่ได้ผ้าม็อบถูพื้น 1 อัน จากนั้นก็ได้ปาของที่ได้รับมาใส่ตน พร้อมทั้งต่อว่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย ซึ่งตนเองก็พยายามพูดคุยด้วยเหตุผล ถึงการที่จะคืนพัสดุต้องทำเรื่องแจ้งกับทางบริษัท แต่ทางลูกค้าก็ไม่หยุด ไม่ฟังที่ตนพูดแล้วอาการเหมือนคนเมา ก่อนจะใช้มือควักอาวุธปืนที่เหน็บอยู่ที่เอวมาขู่ตน จากนั้นตนจึงได้โทรศัพท์หาเพื่อนที่เป็นพนักงานส่งพัสดุที่กำลังทำงานอยู่ในเมืองทองให้มาหา เนื่องจากกลัวความปลอดภัย

ขณะเดียวกันทางนายสมชายก็ได้โทรเรียกเพื่อนผู้ชายมาเพิ่มอีก 2 คน  ซึ่งภายในคลิปก็จะเห็นนายสมชาย สวมเสื้อยืดสีเขียว ชักปืนออกมาขู่ด้วย ตนเองจึงตัดสินใจนำเงินส่วนตัว จำนวน 899 บาท คืนเงินให้ทางลูกค้ารายนี้ไป

ซึ่งจากเหตุการณ์ครั้งนี้ตนรู้สึกกลัวมากเพียงแค่ทำงานส่งพัสดุแต่เกือบถูกรุมทำร้าย เกือบถูกยิงทิ้ง ตนเป็นแค่พนักงานส่งพัสดุธรรมดาคนนึงส่งของต่อพัสดุ 1 ชิ้น ได้เงินแค่ 4-5 บาท เท่านั้น

อย่างไรก็ตามเบื้องต้นตนเองได้นำหลักฐานแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด  จากนั้นก็มีการเชิญคู่กรณี มาชี้แจง ปรากฏว่ามีการทะเลาะกันอีก พนักงานสอบสวนจึงให้ตนและคู่กรณีกลับบ้านไปสงบสติอารมณ์ก่อนที่จะเรียกมาสอบปากคำตามขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป ตอนนี้ตนรู้สึกไม่ปลอดภัยเพราะต้องทำงานส่งพัสดุบริเวณจุดเกิดเหตุประจำ จึงนำเรื่องมาร้องเรียนกับดร.แก้วให้ช่วยดูเรื่องความปลอดภัย และช่วยติดตามคดี

บ.ดอยแม่สลอง ออกประกาศหลัง "มอส ละครคุณธรรม" ถูกสืบนครบาลจับกุม

หลายฝ่ายจับพิรุธ หลังรัสเซียไม่คืนร่าง “นาวาลนี"

สามี รับสารภาพใช้หินทุบหัว “น้องนุ่น” นำศพไปทิ้งที่ปราจีนบุรี