สามี รับสารภาพใช้หินทุบหัว “น้องนุ่น” นำศพไปทิ้งที่ปราจีนบุรี

โดย PPTV Online

เผยแพร่

ญาติ-เพื่อน ตามหาน้องนุ่น หลังจากหายตัวปริศนา ตร. เค้นสอบสามี จนรับสารภาพ เป็นคนลงมือฆ่านุ่น ใช้หินทุบหัว นำศพไปทิ้งปราจีนบุรี หลังมีปากเสียงกัน

จากกรณีนายศิริชัย รักทอง อายุ 33 ปี สามี ของน.ส.ชลลดา มุธุรงศ์ หรือ น้องนุ่น (ภรรยา) อายุ 27 ปี ได้อุ้มลูกเดินทางมาเข้าพบ พ.ต.ท.ณัฐธนพล อินทรเรืองศร สว.(สอบสวน)สภ.ปากเกร็ด ภ.จว.นนทบุรี เจ้าของคดี พร้อมน.ส.เพ็ญ พอตา (แม่ของน้องนุ่น) และ ครอบครัว โดยทางฝ่ายแม่น้องนุ่นต้องการให้ลูกเขยไปชี้จุดที่รถวิ่งและจุดที่น้องนุ่นหนีลงรถไปขึ้นแท็กซี่ ก่อนจะหายตัวไปบริเวณเลียบคลองปะปา เพราะแม่มีความสงสัยเกี่ยวกับคำบอกเล่ากรณีดังกล่าวของลูกเขยหลายจุด

เปิดวงจรปิด! สามีโหดทำร้าย ”น้องนุ่น” ก่อนฆ่า-อำพรางศพ

“น้องนุ่น” โพสต์อวยพรวันเกิดสามี ก่อนถูกทำร้ายทุบหัวจนตาย!

ย้อนคำโกหก! สามีโหด ก่อนสารภาพฆ่า "น้องนุ่น" ต่อหน้าลูก

น้องนุ่น รายการสตริงเกอร์ นนทบุรี
นายศิริชัย รักทอง อายุ 33 ปี สามี ของน.ส.ชลลดา มุธุรงศ์ หรือ น้องนุ่น

วันนี้ 20 ก.พ. 2567 พ.ต.ท.ติรัส ตฤณเตชะ รองผกก.ส.ส.สภ.ปากเกร็ด เปิดเผยว่า หลังจากได้รับแจ้งในเบื้องต้น ทางตำรวจได้ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามคำให้การของครอบครัวผู้สูญหาย ซึ่งน้องได้หายไปจากพื้นที่ของปากเกร็ด ตอนนี้ญาติฝ่ายแม่และสามีของผู้ที่หายไปเพิ่งได้มาแจ้งลงบันทึกประจำวันว่ามีคนหาย และประสงค์จะติดตามกันเองก่อน ซึ่งยังไม่ได้นำข้อมูลที่เกี่ยวข้องมามอบหมายให้กับฝ่ายสืบสวนดำเนินการต่อ แต่ ตำรวจได้เตรียมข้อมูลไว้บ้างแล้ว ทั้งกล้องวงจรปิด และรายละเอียดที่เกี่ยวข้องอื่นๆที่เกี่ยวของกับผู้สูญหาย ตอนนี้เราต้องคิดในสิ่งที่ดีก่อนว่าน้องที่หายไปน่าจะยังปลอดภัย

ต่อมา นายศิริชัย สามีน้องนุ่น เข้าให้ปากคำกับตำรวจ โดยใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง ก่อนจะออกมา ซึ่งนายศิริชัยระบุว่า ตนพร้อมด้วยน.ส.ชลลดา และลูกวัย 1 ขวบ 2 เดือน เดินทางไปร้านอาหารแห่งหนึ่ง ย่านเลียบด่วนรามอินทรา เมื่อเสร็จสิ้นจากงานเลี้ยง เมื่อเวลาราว 01.00 น. ของวันที่ 18 ก.พ. 2567 ตนได้ขับรถพา น.ส.ชลลดา และลูก มุ่งหน้าถนนเลียบคลองประปา เพื่อกลับบ้าน แต่ระหว่างนั้นเกิดมีปากเสียงอย่างรุนแรง เรื่องแฟนเก่าของตัวเอง และเรื่องเงินทองภายในครอบครัว ถึงขั้นตบตีกัน ทำให้น.ส.ชลลดา ไม่พอใจ ตัดสินใจเปิดประตูหนีลงจากรถ 1 ครั้ง แต่ตัวเองตามกลับขึ้นรถมาได้

จากนั้น น.ส.ชลลดา พยายามหนีลงจากรถอีกหลายครั้ง จนมาหนีสำเร็จ บริเวณหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านเมืองทองธานี ขณะตนกำลังชะลอรถเลี้ยวเข้าหมู่บ้าน เมื่อ น.ส.ชลลดา ลงจากแล้ว เห็นวิ่งเข้าซอย ก่อนที่จะหายเข้ามุมมืด ซึ่งขณะนั้นตนไม่สามารถวิ่งตามไปได้ เนื่องจากลูกอยู่ในรถ เชื่อ น.ส.ชลลดา วิ่งทะลุซอยดังกล่าว เพื่อขึ้นรถแท็กซี่

ต่อมาวันรุ่งขึ้น ตนพยายามติดต่อหา น.ส.ชลลดา แต่ไม่สามารถติดต่อได้ และเมื่อสอบถามเพื่อนสนิท ที่คาด น.ส.ชลลดา จะไปอยู่ด้วย ก็ไม่มีใครพบ จึงตัดสินใจแจ้งญาติผู้ใหญ่ให้รับทราบ

นายศิริชัย ยอมรับว่า ที่ผ่านมาภรรยาเคยมีพฤติกรรมหนีในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง โดยทุกครั้งไม่เคยแจ้งว่าหนีไปที่ใด และแม้ตนจะเคยทะเลาะกับภรรยาหลายครั้ง จนถึงขั้นเอาเท้าเหยียบหน้า น.ส.ชลลดา แต่ทุกครั้งก็จะเป็นฝ่ายง้อ น.ส.ชลลดา เสมอ ยืนยันไม่ได้ฆ่าอำพราง น.ส.ชลลดา และสร้างเรื่องตามหาแฟนตามกระแสข่าว เชื่อปัจจุบันน.ส.ชลลดา ยังมีชีวิต พร้อมต้องการให้หายงอนและรีบกลับมาหาด่วน

กระทั่งเวลาประมาณ 19.00 น. มีรายงานว่าพบโครงกระดูกปริศนาถูกเผาที่จ.ปราจีนบุรี สวมสร้อยข้อมือคล้ายกับ น.ส.ชลลดา ที่จ.ปราจีนบุรี  

จากนั้น พล.ต.ต.ปรารถนาแผ่นผา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ด นำกำลังเข้าตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ภายในหมู่บ้านดังย่านเมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านของนายศิริชัย สามีน้องนุ่น  พบรถยนต์เก๋งหรู BMW สีขาวหมายเลขทะเบียน 1 ขส-6644 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ภายในบ้าน ก่อนทางตำรวจจะควบคุมตัวนายนายศิริชัย มาที่ห้องสืบสวนสภ.ปากเกร็ด เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม 

หลังสอบสอบปากคำอย่างเคร่งเครียดในห้องสืบสวน สภ.ปากเกร็ดนานกว่า 1 ชั่วโมง ทางนายศิริชัย รับสารภาพว่าเป็นคนลงมือสังหารน้องนุ่นภรรยาตนเอง โดยใช้หินทุบหัวหลังมีปากเสียงกัน และกลับจากงานเลี้ยง ก่อนจะนำศพใส่รถเก๋งไปทิ้งไว้ที่บ้านมาบเหวียง ตำบลหนองโพ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี  ในเบื้องต้นตำรวจชุดสืบสวนอยู่ระหว่างสอบปากคำอย่างละเอียดถึงสาเหตุการฆาตกรรมในครั้งนี้

บ.ดอยแม่สลอง ออกประกาศหลัง "มอส ละครคุณธรรม" ถูกสืบนครบาลจับกุม

หลายฝ่ายจับพิรุธ หลังรัสเซียไม่คืนร่าง “นาวาลนี"

สามี รับสารภาพใช้หินทุบหัว “น้องนุ่น” นำศพไปทิ้งที่ปราจีนบุรี

Bottom-PL-HLW Bottom-PL-HLW

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ