นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ดำเนินการการให้บริการสงเคราะห์ผู้สูงอายุในภาวะยากลำบาก เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ได้รับความเดือดร้อนด้านที่พักอาศัย อาหารและเครื่องนุ่งห่ม ประสบปัญหาด้านครอบครัว ถูกทารุณกรรม ถูกแสดงหาประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ถูกทอดทิ้ง ไม่เกินวงเงินครั้งละ 3,000 บาท ไม่เกิน 3 ครั้ง/คน/ปี
โดยการขอรับความช่วยเหลือหลัก ๆ ทำได้ 2 ทาง
- ในกรุงเทพฯ สามารถขอรับความช่วยเหลือได้ที่กรมกิจการผู้สูงอายุ กรมกิจการเด็กและเยาวชน กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300
- ส่วนในจังหวัดอื่น ๆ ได้ที่ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) 76 จังหวัด ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ (ศฑส.) 11 แห่ง และหน่วยงานในสังกัด พม. ที่อยู่ในจังหวัดนั้น
สิ่งที่ต้องใช้ในการยื่นขอรับการช่วยเหลือ คือ
กรณีผู้สูงอายุแจ้งเรื่องเองต้องใช้
- บัตรประจำตัวประชาชน
- บัตรอื่นที่ทางราชการออกให้
หากบุคคลหรือหน่วยงานอื่นพบเห็น
- ใช้บัตรประจำตัวประชาชน
- บัตรอื่นที่ทางราชการออกให้ของผู้แจ้งเรื่องมาใช้ประกอบเป็นเอกสารยื่น
กรณีไม่มีหลักฐาน
- ให้มีหนังสือรับรองที่ทางราชการออกให้ว่าผู้สูงอายุมีถิ่นที่อยู่ในพื้นที่นั้นจริง
สำหรับการให้ความช่วยเหลือ
จะให้ความช่วยเหลือในรูปเงินช่วยเหลือครั้งละไม่เกิน 3,000 บาท หรือมอบเป็นสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นในชีวิตประจำวัน ใน 1 ปีสามารถช่วยเหลือได้ 3 ครั้ง
โดยเจ้าหน้าที่จะรับเรื่องไว้ ก่อนจะรวบรวมข้อมูลส่งให้ พม. ลงพื้นที่เก็บข้อมูล ตรวจสอบว่าเข้าหลักเกณฑ์จริง หากผ่านเกณฑ์ก็จะได้รับความช่วยเหลือผ่านผ่าน จะช่วยเหลือ 3 รูปแบบ คือ
- โอนเงินผ่านระบบ Krungthai Corporate Online
- เช็ค
- เงินสด (โดยมีใบสำคัญรับเงิน ซึ่งต้องมีเจ้าหน้าที่ลงนามเป็นพยานให้ครบถ้วนพร้อมภาพถ่ายประกอบ)