สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา ชายชาวเกาหลีรายหนึ่งซึ่งเป็นผู้เสียหาย เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พระราชวัง หลังเข้าไปเที่ยวชมภายในวัดพระเชตุพนฯ หรือวัดโพธิ์ โดยแขวนกระเป๋าสะพายไว้ที่รถเข็นเด็ก จากนั้นก็เดินไปถ่ายรูปภายในวัด เมื่อเดินกลับมาพบว่ากระเป๋าสะพายหายไปแล้ว
หลังรับแจ้ง ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนระบุตัวตนคนร้ายได้ จึงทำการสืบสวนและขออนุมัติศาลดุสิตออกหมายจับ กระทั่งได้รับแจ้งจากสายลับว่า พบหญิงคนนี้อยู่บริเวณหน้าคอนโดแห่งหนึ่ง ซ.ประดิพัทธ์ 23 แขวงพญาไท เขตพญาไท กทม.
ต่อมาวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 ฝ่ายสืบสวน สน.พระราชวัง จึงนำกำลังไปเฝ้าสังเกตการณ์จนพบ ก่อนแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจสอบ ในห้องพักพบของกลางคือ ชุดที่ใส่ก่อเหตุ และกระเป๋าสะพายของผู้เสียหาย จึงยึดไว้เป็นหลักฐานก่อนคุมตัวมาสอบสวน ทราบชื่อคือนางสาวพรทิพย์ อายุ 55 ปี ชาวนครศรีธรรมราช
จากการสอบถามนางสาวพรทิพย์ ยอมรับว่า เริ่มก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2553 และก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง โดยจะเดินไปตามสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นวัด สวนสาธารณะ และห้างสรรพสินค้า ที่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติชอบมายืนถ่ายรูป ยืนรออาหาร หรือนั่งชมวิว
จากนั้นจะอาศัยจังหวะที่นักท่องเที่ยวไม่ได้สนใจทรัพย์สินของตนเอง เดินไปหยิบเอาทรัพย์สินหลบหนีออกมา เมื่อได้ทรัพย์สินมาก็จะเอาไปขายนำเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และเก็บสะสมไว้เป็นทุนเปิดร้านขายกาแฟ
นอกจากนี้ยังพบว่า นางสาวพรทิพย์ ถูกจับกุมดำเนินคดีลักทรัพย์มาแล้ว 11 ครั้ง ได้แก่
- ปี 2553 สน.พญาไท
- ปี 2555 สน.พญาไท
- ปี 2557 สน.ปทุมวัน (รวม 2 ครั้ง)
- ปี 2558 สน.บางซื่อ
- ปี 2560 สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สน.ปทุมวัน (รวม 2 ครั้ง)
- ปี 2566 สน.มีนบุรี สน.บางซื่อ และสน.ปทุมวัน
ก่อนจะมาถูกจับพื้นที่ สน.มีนบุรี ข้อหาครอบครองยาเสพติดอีก 1 ครั้ง และพ้นโทษมาเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก่อนกลับมาก่อเหตุในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ฝากประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนที่ไปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ และมักจะเผลอวางสิ่งของ กระเป๋า และทรัพย์สินอื่น ๆ เอาไว้แล้วไม่ทันระวัง อาจจะตกเป็นเหยื่อของคนร้ายได้