จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้คือ เมื่อ ช่วง 19.30น. เมื่อวานนี้ (7 มิ.ย.) ตำรวจ สน.พระโขนง รับแจ้งจากล่ามแปลภาษาจีนชาวไทย ชื่อเล่น นายหมู ซึ่งได้รับการประสานจากพ่อของ น.ส.ซินเล่ย ลู่ อายุ 27 ปี สัญชาติจีน แจ้งว่าลูกสาวเดินทางมากับกลุ่มเพื่อนประมาณ 10 กว่าคน มาเที่ยวที่ประเทศไทย เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.67
ต่อมาวันที่ 7 มิ.ย.บิดาแจ้งว่ามีผู้ชายโทรวีแชทเข้ามาหาว่าให้โอนเงินให้จำนวน 5 ล้านหยวน หรือประมาณ 25 ล้านบาท แล้วจะส่ง น.ส.ซินเล่ย ลู่กลับไปให้ที่เซี่ยงไฮ้
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (8 มิ.ย.) พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ประดับไทย ผกก.สน.พระโขนง ถึงความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่าตัวน.ส.ซินเล่ย ได้เดินทางออกจากโรงแรมเอมควอเตอร์ สุขุมวิท 58 เพียงคนเดียวในเวลา 15.11 น.
เบื้องต้น ตำรวจได้มีการตรวจเช็คกับทางตม. แล้ว ทราบว่าน.ส.ซินเล่ย ยังไม่มีการเดินทางออกจากประเทศไทย ขณะนี้อยู่ในการเร่งตรวจสอบหาพิกัดตัว น.ส.ซินเล่ย
ส่วนของกลุ่มเพื่อนที่เข้ามาเที่ยวในประเทศไทยกับน.ส.ซินเล่ย นั้นยังอยู่ในประเทศไทยหรือไม่ ขณะนี้อยู่ในการเร่งตรวจสอบร่วมกับสืบนครบาลเช่นกัน
ส่วนข้อมูล น.ส.ซินเล่ย ทำอาชีพอะไรหรือรายละเอียดต่างๆนั้น รวมถึงข้อมูลในส่วนคนร้ายได้มีการติดต่อเพิ่มเติมกับทางครอบครัวของ น.ส.ซินเล่ย เพิ่มหรือไม่นั้น ทางตำรวจ ยังไม่ได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติม
พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ยังกล่าวต่อว่า นายหมูอ้างว่ารู้จักกับบิดาของ น.ส.ซินเล่ย จากการเป็นล่ามให้นักกีฬา ตนจึงส่งข้อมูลที่บิดาส่งมาให้เพื่อประสานกับทางตำรวจ
แต่นายหมูโยังไม่ได้มีการเข้ามาพบตำรวจเพื่อให้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่คาดว่าจะเป็นการลักพาตัวจริงเท็จหรือไม่นั้น ทางตำรวจก็ยังไม่สามารถตัดประเด็นใดทิ้งได้ แต่เบื้องต้นให้คิดว่าเป็นเรื่องจริงไปก่อนเพื่อป้องกันอันตรายแก่ตัว น.ส.ซินเล่ย โดยขณะนี้ ทีมสืบนครบาลจะร่วมกับฝ่ายสืบสวนสน.พระโขนงในคดีนี้ด้วย ล่าสุดพบว่าทางตำรวจท่องเที่ยว เข้ามารับข้อมูลเพิ่มเติมจากตำรวจ สน.พระโขนงไปแล้วด้วยเช่นกัน