จากกรณีมีการโพสต์เผยแพร่คลิปวีดีโอไฟดูดนักเรียนรายหนึ่ง หลังคุณครูใช้ให้นักเรียนไปปิดสวิตช์น้ำ ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นงานกีฬาสีโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ตรัง ทำให้นักเรียนโดนไฟดูดและเสียชีวิต ประกอบกับมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีการเข้าไปช่วยเหลืออย่างล่าช้านั้น
โดยทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นายวรวิทย์ หรือ “น้องวายุ” อายุ 14 ปี ซึ่งเป็นนักเรียน ชั้น ม.2 โรงเรียนดังกล่าว มีร่องรอยบาดแผลบริเวณหน้าอก และรอยแผลถลอกที่ใบหน้า เบื้องต้นเชื่อว่าสาเหตุการเสียชีวิตน่าจะเกิดจากไฟฟ้าช็อต
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่วัดควนตุ้งกู ต.บางสัก อ.กันตัง จ.ตรัง ซึ่งใช้เป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ “น้องวายุ” พบบรรดาญาติต่างอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจ โดยมีพวงหรีดจากทางโรงเรียนมาตั้งไว้ใกล้กับหีบศพ ก่อนที่จะได้พบกับ นายพรชัย เทพสุวรรณ อายุ 53 ปี และนางสุภาภรณ์ เทพสุวรรณ อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นพ่อแม่ของน้องวายุ
โดยนายพรชัย บอกว่า เสียใจมากกับการจากไปของลูกชาย ตนมีลูกชาย 2 คน คนที่เสียชีวิตเป็นคนสุดท้อง หลังจากเกิดเหตุทางโรงเรียน ทั้งผู้อำนวยการ คณะครูทั้งโรงเรียน ได้เข้ามาดูแลอย่างดี คืนวานที่ผ่านมาก็เข้ามาเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมศพ ซึ่งก่อนจะเกิดเหตุไม่ได้มีลางสังหรณ์อะไรมาก่อน ทั้งนี้ตนก็ไม่ได้แจ้งความดำเนินคดี ไม่ได้เอาผิดอะไรกับทางโรงเรียน เพราะเป็นอุบัติเหตุ ทางเราก็เข้าใจซึ่งก่อนเกิดเหตุตนก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น เพียงแค่รู้ข่าวหลังจากคุณครูโทรมาว่าลูกชายเกิดอุบัติเหตุ ให้ตนไปที่โรงพยาบาลกันตัง เมื่อไปถึงเห็นลูกอยู่ในสภาพแน่นิ่งแบบนั้นแล้วก็ทำอะไรไม่ถูกเลย รู้แค่ว่าลูกถูกไฟดูด
หากวันนี้หากพูดกับลูกชายได้ อยากจะบอกว่าให้ลูกไปสู่สุขติ ไม่ต้องห่วงพ่อแม่แล้ว พ่อแม่ก็จะทำทุกอย่างให้เต็มที่ ซึ่งงานบำเพ็ญกุศลศพจะทำการฌาปนกิจวันพฤหัสบดีที่ 27 มิ.ย.นี้
ด้าน นายจรินทร์ ทองแย้ม อายุ 41 ปี น้าของน้องวายุ กล่าวว่า ตนไปดูที่เกิดเหตุก็น่าจะเกิดจากไฟฟ้ารั่วติดกับเสาเหล็ก ลักษณะแทงค์น้ำลักษณะสูง มี 2 ชั้น ซึ่งสายไฟก็เป็นสายไฟเก่าที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว เมื่อมีไฟรั่วน้องได้เดินขึ้นไปโดนเสาเหล็กนั้นที่มีไฟรั่วอยู่ ประกอบกับไม่ใส่รองเท้า และมีน้ำฝนไหลผ่าน ซึ่งตนก็มองแล้วว่าความปลอดภัยของโรงเรียนน้อยไปนิด ซึ่งจะต้องดูแลความปลอดภัยให้ดีกว่านี้อีก เพราะนักเรียนก็มีหลายคน โดยเหตุการณ์นี้ตนมองว่าถ้าฝนไม่ตกลงมาก็น่าจะไม่มีอะไร ฐานะเป็นน้าของน้องวายุ อยากจะบอกหลานว่า รักหลานมาก ไม่อยากให้เสียชีวิตลง แต่ก็คงทำอะไรไม่ได้แล้ว อยากให้เป็นอุทาหรณ์กับทางโรงเรียนและแก้ไข เพราะอาจจะเกิดขึ้นอีก โดยทางญาติไม่ได้ติดใจในการเสียชีวิต เพราะเป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครตั้งใจ และคลิปวีดีโอในการเข้าช่วยเหลือช้า ก็เข้าใจว่าไม่มีใครที่กล้าจะเข้าไปช่วยในจุดนั้น เพราะต้องมีวิธีการช่วยเหลือ