ช่วงบ่ายวันที่ 13 ก.ค. 67 ตั้งแต่เวลา 14.45 น. ศูนย์วิทยุ 191 ภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ได้รับการแจ้งประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจทางหลวง จุดส้มป่อย เส้น 226 อุทุมพรพิสัย - ศรีสะเกษ ช่วงกิโลเมตรที่ 14 หน้าปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง พบรถยนต์กระบะตู้ทึบบรรทุกเล็กสีส้ม ด้านท้ายไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองศรีสะเกษ ด้วยความเร็วสูง
เจ้าหน้าที่จึงเปิดไฟ พร้อมขับติดตาม พยายามพูดผ่านไมค์กระจายเสียง เพื่อให้รถคันดังกล่าวได้จอด เพื่อเข้าตรวจสอบ แต่รถยนต์คันดังกล่าวกลับเร่งเครื่องยนต์ขับซิ่งหลบหนี
โดยรถคันดังกล่าว วิ่งเข้าตัวเมืองศรีสะเกษ ผ่านสามแยกพืชสวน ขับเลี้ยวขวา ผ่านหน้า อบจ.ศรีสะเกษ ถึงสี่แยกหนองครก เลี้ยวขวา มุ่งหน้าไปทางอำเภอวังหิน แต่พอถึงกลางทาง กลับรถยูเทิร์นหันหลังกลับมาที่สี่แยกหนองครก อีกรอบ ก่อนเลี้ยวซ้าย กลับทางเดิม ผ่านสามแยกพืชสวน เลี้ยวซ้ายเข้าเส้นทางมุ่งหน้าไปสี่แยกส้มป่อย อำเภออุทุมพรพิสัย เลี้ยวขวา มุ่งหน้าไปทางอำเภอราษีไศล
ซึ่งศูนย์วิทยุภูธรจังหวัดศรีสะเกษ 191 ได้วิทยุประสานตลอดระยะกับตำรวจสายตรวจทางหลวง และประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ, ภูธรอุทุมพรพิสัย และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรราษีไศล เพื่อการสกัดจับกุมรถยนต์คันดังกล่าว จนเวลา 16.45 น. ได้มีการปิดกั้นจราจรทำให้รถติดทั้งหัวและท้ายกว่า 2 กิโลเมตร
ในที่สุดรถยนต์ตู้ทึบสีส้ม ได้ไปจอดอยู่ที่ปากทางออกบนสะพานข้ามแม่น้ำมูลอำเภอราษีไศล เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรราษีไศล ได้ขอความร่วมมือกับรถยนต์บรรทุกพ่วง 18 ล้อ มาจอดปิดกั้นหัวสะพาน ขณะเดียวกันกับด้านหลังก็ได้ใช้รถยนต์บรรทุกพ่วงตามมาจอดปิดท้ายไว้เช่นกัน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ สภ.ราษีไศล ร่วมกับ ปกครองอำเภอราษีไศล ได้ใช้ความพยายามในการเปิดการเจรจากับผู้ที่ขับรถยนต์ตู้ทึบสีส้ม ขอความร่วมมือให้เปิดประตู เดินลงจากรถยนต์ ระยะเวลาผ่านไปกว่า 45 นาที แต่ไม่เป็นผล เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงใช้จู่โจมเข้าไปทุบกระจกด้านข้างรถตรงประตูด้านหน้า เพื่อที่จะเปิดประตู แต่ผู้ที่อยู่ในรถตรงที่นั่งคนขับ ได้พยายามที่จะใช้ไฟแซ็ค จุดระเบิดถังแก๊สที่เปิดวาวเตรียมพร้อมแล้ว เจ้าหน้าที่จึงวิ่งล่าถอยออกมาก่อน เพื่อมาวางแผนใหม่
จากนั้นเจ้าหน้าที่ปกครอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แอบเข้าไปอีกครั้ง ครั้งนี้ได้ใช้ถังดับเพลิง จำนวน 2 ถัง เข้าไปด้วย โดยใช้เหล็กทุบกระจกเพื่อเรียกความสนใจไปที่กระจกประตูด้านซ้าย ส่วนด้านขวา เจ้าหน้าที่ก็ได้แอบเข้าไปเช่นกัน แล้วใช้ถังดับเพลิงฉีดเข้าไปด้านหน้าที่นั่งด้านหน้ารถยนต์พร้อมกันทั้งสองข้าง
ทำให้ผู้ที่นั่งอยู่ในรถทนไม่ได้ จึงได้เปิดประตูรถยนต์ออกมา ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอราษีไศล จะได้บุกเข้าไปรวบตัวออกมา ให้ห่างจากตัวรถ พร้อมบีบมือให้คลายไฟแช็คออกมามือ ก่อนที่จะจุดระเบิดถังแก๊สที่วางไว้ด้านหน้ารถยนต์ ที่วางเท้าที่นั่งคู่กับคนขับ นำตัวไปสอบสวนที่ สภ.ราษีไศล
หลังตรวจค้นรถยนต์ตู้ทึบ พบสิ่งของต่าง ๆ มากมาย ที่นำมาด้วยที่หลังกระบะ ที่วางเป็นแบบสองชั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจปกครอง พยายามสอบถามเรื่องราวต่าง ๆ แต่ชายคนขับก็ไม่ได้ตอบคำถามใด ๆ โดยเมื่อนำบัตรประชาชนไปตรวจสอบในระบบ พบว่า ชื่อ นายสุริยาพงศ์ อายุ 34 ปี ชาวตำบลเมืองเหนือ อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปสอบสวน พร้อมเปิดประตูกระบะรถยนต์ตู้ทึบ ตรวจสอบต่อหน้าผู้ต้องสงสัยที่ขับรถยนต์หลบหนีเจ้าหน้าที่ข้าม 3 อำเภอ รวมระยะทางกว่า 300 กิโลเมตร
เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจทางหลวง ตั้ง 4 ข้อหาเบื้องต้น ได้แก่ 1.ขับรถยนต์โดยประมาท หวาดเสียว 2. ขับขวางกันตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3. ขับรถพยายามสร้างความไม่สงบกับผู้ใช้ยานยานพาหนะบนทางหลวง และ 4. ใช้รถโดยไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เจ้าหน้าที่ตำรวจจับตรวจฉี่แล้ว ไม่พบว่ามีสารเสพติดแต่อย่างใด
โดยนายสุริยาพงศ์ ยอมเปิดปากบอกกับร้อยเวรสอบสวนเพียงสั้นๆ ว่า "ทะเลาะกับเมีย ก่อนขับรถยนต์ออกมา อยากตาย" แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ รอการสอบสวนโดยละเอียดอีกครั้ง ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป