วันที่ 22 ก.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวัชระ ไกรสัย ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 ออกประกาศแจ้งเตือน ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด 7 จังหวัด พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ จ.อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา และลพบุรี เรื่องแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่ 2/2567 คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาจะมีแนวโน้มสูงขึ้นอยู่ในเกณฑ์ 500-700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
เนื่องจากในช่วงนี้ยังมีฝนตกและมีน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาไหลลงเหนือเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราเพิ่มมากขึ้น และคาดการณ์ว่าปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาจะมีแนวโน้มสูงขึ้น อยู่ในเกณฑ์ 500-700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลทำให้พื้นที่ริมน้ำมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่บริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ถึงบริเวณ ต.บ้านกระทุ่ม ต.หัวเวียง อ.เสนา และ ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา อีกประมาณ 1-1.20 เมตร โดยระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นดังกล่าวยังคงอยู่ในตลิ่งลำน้ำ
ทั้งนี้ สำนักงานชลประทานที่ 12 โดยกรมชลประทาน จะควบคุมปริมาณการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ให้อยู่ในเกณฑ์ดังกล่าว ด้วยการบริหารจัดการน้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยมิให้มีผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตร หากมีปริมาณน้ำหลากเพิ่มขึ้น ที่จะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที่ จะแจ้งให้ทราบต่อไป
โดยล่าสุด ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านจุดวัดอยู่ที่ 1,080 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่บริเวณเขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำทางด้านเหนือเขื่อนอยู่ที่ 16.47 เมตร/รทก. มีระดับน้ำทางด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 8.98 เมตร/รทก. ซึ่งระดับน้ำห่างจากตลิ่งอยู่ที่ 7.36 เมตร และเขื่อนเจ้าพระยามีอัตราการระบายน้ำลงสู่พื้นที่ท้ายเขื่อนอยู่ที่ 559 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งส่งผลทำให้ที่สถานีวัดน้ำ C.3 บ้านบางพุทรา อ.เมือง จ.สิงห์บุรี มีปริมาณน้ำไหลผ่านจุดวัดอยู่ที่ 512 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำ สำนักงานชลประทานที่ 12 จึงใคร่ขอความอนุเคราะห์จังหวัดประกาศประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัท ห้างร้าน ที่ประกอบกิจการในแม่น้ำเจ้าพระยา อาทิ งานก่อสร้าง เขื่อนป้องกันตลิ่ง แพรร้านอาหาร เป็นต้น และประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ขอให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด