เมื่อวันที่ 19 ส.ค. ที่สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(สป.อว.) น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการ รมว.กระทรวง อว. ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวง อว.ได้รับ
เป็นผู้แทนมารับเรื่องร้องเรียนความเป็นธรรมจาก นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง กรณีนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ วิทยาเขตนนทบุรีที่ถูกรุ่นพี่ทำร้ายซึ่งได้เดินทางมาขอความเป็นธรรมพร้อมกับครอบครัว
โดยกัน จอมพลัง ได้สอบถามถึงความคืบหน้าในการดำเนินการกับนักศึกษารุ่นพี่พร้อมกับเรียกร้องให้มีการตรวจสอบองค์กรเถื่อนที่ซ่อนอยู่ในมหาวิทยาลัยที่ทำการฝึกนักศึกษาให้กระทำการรุนแรงพร้อมกับมีคำสอนผิดๆ เช่น ให้ฆ่าคน ให้ต่อยอาจารย์ ให้ดูดกัญชา เป็นต้นผ่านกิจกรรมรับน้องที่อยู่ในมหาวิทยาลัยรวมทั้งแนวทางแก้ปัญหา
นัดส่งชื่อพรุ่งนี้! ลุ้นโผ ครม. "อุ๊งอิ๊งค์1" ไร้คนนามสกุล “วงษ์สุวรรณ”
“โปรตีนคุณภาพ” สำหรับผู้สูงอายุ ป้องกันสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ
เปิดภาพนาที "คิวพี" นักแสดงซีรีส์ขี่เจ็ตสกีชนเรือหางยาวอย่างจัง!
และได้ให้นักศึกษาที่ถูกรุ่นพี่ทำร้ายได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า ตนถูกรุ่นพี่ทำร้าย 2 ช่วงคือวันที่ 13 ส.ค.เวลาประมาณ 15.00 น.ที่โรงอาหารมีรุ่นพี่ 2 -3 คนเข้ามาล่าวหาว่า ตนขายสถาบันพร้อมกับดึงคิ้วและลากไปทำร้ายด้วยการต่อย ศอก เข่า และถูกทำร้ายครั้งที่ 2 ในวันที่ 15 ส.ค.ในมหาวิทยาลัย พร้อมกับพ่อของตน และมีการนำบัตรประชาชนของตนไปด้วย ทั้งนี้ ตนมีความประสงค์จะขอย้ายสถานที่เรียนไปเรียนยังสถาบันอื่นด้วย
น.ส.สุชาดา กล่าวว่า กระทรวง อว.ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์เกิดขึ้นและได้ติดตามความคืบหน้ากับ มทร.สุวรรณภูมิอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้มหาวิทยาลัยได้ส่งผลการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นมาถึงกระทรวง อว.แล้ว ยืนยันว่ากระทรวง อว.จะดูแลนักศึกษาที่ได้รับผลกระทบอย่างดีที่สุดทั้งเรื่องการเยียวยาและประสานกับสถาบันการศึกษาที่ผู้เสียหายต้องการไปเรียนต่อ
จากนั้น น.ส.สุชาดา แถลงผลสอบสวนข้อเท็จจริงว่า การแก้ปัญหามี 4 แนวทางประกอบด้วย
1.ให้ผู้ที่ก่อเหตุทำร้ายนักศึกษารุ่นน้องในวันที่ 15 ส.ค.ต้องมีบทลงโทษและให้ดำเนินคดีอาญา
2.ได้ข้อมูลใหม่จาก นักศึกษาที่ถูกรุ่นพี่ทำร้ายว่าในวันที่ 13 ส.ค.ก็ถูกรุ่นพี่ทำร้ายซึ่งเป็นนักศึกษารุ่นพี่คนละกลุ่มกับที่รุมทำร้ายในวันที่ 15 ส.ค.กระทรวง อว.ขอให้ มทร.สุวรรณภูมิ ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด พยานหลักฐานและรายงานผลการสอบสวนมาถึงกระทรวง อว.ภายใน 2 วันคือไม่เกินวันที่ 21 ส.ค.นี้ ถ้าพบมีการไปทำร้ายจริง ให้ไล่ออกและดำเนินคดี
3.การรับน้องที่เป็นเหตุนำสู่การทำร้ายนักศึกษารุ่นน้องในวันที่ 13 และ 15 ส.ค.มีนักศึกษาเข้าร่วมประมาณ 40 – 50 คนให้ มทร.สุวรรณภูมิ ตรวจสอบว่ามีรุ่นพี่กี่คนและมีบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมด้วยหรือไม่ และถ้าตรวจสอบการรับน้องแล้วพบว่าไม่ทำตามกฎของมหาวิทยาลัย นักศึกษาที่ทำผิดจะต้องถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัย
4.ให้ มทร.สุวรรณภูมิ ไปตรวจสอบองค์กรเถื่อนที่นำนักศึกษาไปฝึกและมีคำสอนผิดๆ ร่วมกับกัน จอมพลังและนักศึกษาที่ถูกรุ่นพี่ทำร้ายให้เสร็จสิ้นภายในเดือน ส.ค.นี้
ขณะที่ ผศ.พัชระ กัญจนกาญจน์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ มทร.สุวรรณภูมิ ได้แถลงผลการสอบสวนกรณีการทำร้ายร่างกายนักศึกษาของคณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ มทร.สุวรรณภูมิ ในวันที่ 15 ส.ค.ว่า จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวจรปิดภายในพบนักศึกษาผู้ก่อเหตุและผู้อยู่ในเหตุการณ์ จำนวน 8 ราย โดยใน 8 รายมี 4 รายที่ลงมือทำร้ายนักศึกษาและต่อยผู้ปกครองจริง เป็นนักศึกษาสาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องงกล 2 ราย นักศึกษาสาขาวิศวกรรมเครื่องมือและแม่พิมพ์ 1 รายและ นักศึกษาวิชาวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม 1 ราย
โดยทั้ง 4 รายให้ไล่ออกจากมหาวิทยาลัยทันทีตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมาพร้อมดำเนินคดี ส่วนอีก 4 รายเป็นนักศึกษาวิศวกรรมไฟฟ้า 2 ราย นักศึกษาสาขาวิศวกรรมเครื่องมือและแม่พิมพ์ 1 รายและนักศึกษาวิชาวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม 1 ราย เป็นผู้อยู่ร่วมในเหตุการณ์ ภาพจากกล้องวงจรปิดไม่ปรากฎว่าเข้าไปทำร้ายนักศึกษาและผู้ปกครอง มหาวิทยาลัยจะสอบสวนเพื่อขยายผลในเรื่องการทำกิจกรรมนอกมหาวิทยาลัย ถ้าพบว่ามีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมดังกล่าว จะลงโทษทางวินัยหรือไล่ออกทันที
ด้านนายสัญญา คำจริง รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา มทร.สุวรรณภูมิ กล่าวว่า ขณะนี้ มทร.สุวรรณภูมิได้มี 4 มาตรการในการดูแลความปลอดภัยในมหาวิทยาลัยคือ
1.คัดกรองนักศึกษาและบุคคลภายนอกที่เข้า-ออกมหาวิทยาลัยโดยต้องแสดงบัตรนักศึกษาหรือแลกบัตรประชาชนและจะนำระบบ AI มาสแกนคนเข้าออกด้วย
2.ถ้าจะจัดกิจกรรมภายในมหาวิทยาลัยเกินเวลา 18.00 น.ให้ขออนุญาติเป็นลายลักษณ์อักษรและต้องได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการ
3.ถ้ามีการจัดกิจกรรมหรือเกิดเหตุการณ์สุ่มเสี่ยงให้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบโดยด่ว
4.ถ้าพบมีบุคลากรภายในมหาวิทยาลัยเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความรุนแรง มหาวิทยาลัยจะมีบทลงโทษร้ายแรง