ทลายเหมืองบิทคอยน์เถื่อน พบเครื่องขุดกว่า 300 เครื่อง

โดย PPTV Online

เผยแพร่

DSI ทลายเหมืองบิทคอยน์เถื่อนเมืองกาญจนบุรี พบเครื่องขุดกว่า 300 เครื่อง ขโมยไฟหลวง-ทำรัฐเสียหายปีละกว่า 100 ล้านบาท

วันที่ 9 ต.ค. 2567 พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ( DSI ) พร้อมด้วยนายธนะ โชคพระสมบัติ ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 3 (ภาคกลาง) และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ลงพื้นที่ตรวจค้นอาคารพาณิชย์ต้องสงสัยในพื้นที่อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ที่มีการลักลอบใช้กระแสไฟฟ้า เพื่อใช้เป็นจุดทำเหมืองขุดเงินดิจิทัล จำนวน 13 จุด ทำให้รัฐสูญเสียรายได้ ปีละกว่า 100 ล้านบาท

คอนเทนต์แนะนำ
จับเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลางกรุง ยึดซิมมือถือกว่า 20,000 เบอร์ มีชาวจีนเป็นคนดูแล
ยึดรถหรู "แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์" เพิ่มอีก 9 คัน ประสานปปง.ยึดบ้าน-ที่ดิน

บิทคอยน์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ( DSI )

กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับคำร้องเรียนจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 3 (ภาคกลาง) ว่าพบการลักลอบตั้งเหมืองขุดเงินดิจิทัลโดยเฉพาะบิทคอยน์อย่างผิดกฎหมาย โดยขอให้ดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 

เพจดังแห่แฉ! บริษัทธุรกิจเครือข่ายขายตรง มีผู้เสียหายอื้อ

ประวัติ "บอสพอล" วรัตน์พล วรัทย์วรกุล เจ้าของธุรกิจ "The iCON GROUP"

ฮิซบอลเลาะห์ ยิงจรวดกว่า 100 ลูกถล่มทางตอนเหนืออิสราเอล

จากการสืบสวนพบว่ามีเครือข่ายผู้ลักลอบกระทำความผิด รวมตัวเช่าบ้านและอาคารพาณิชย์กว่า 13 แห่ง กระจายตัวในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี มีการนำเข้าเครื่องมือจากต่างประเทศ และลักลอบใช้กระแสไฟฟ้า ส่งผลให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้รับความเสียหายเป็นอย่างมากและกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ จึงได้ขอหมายค้นเข้าทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบเครื่องขุดสกุลเงินดิจิทัล จำนวน 300 เครื่อง และควบคุมตัวนายกฤษดา (สงวนนามสกุล) ซึ่งรับว่าเป็นเจ้าของและผู้แล (แอดมิน) ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าม่วง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ผู้ช่วยผู้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กล่าวว่า การขุดเหมืองบิทคอยน์ดังกล่าว จะใช้กระแสไฟฟ้าปริมาณมากขนาดเทียบเท่ากับโรงงานอุตสาหกรรม แต่มีการลักลอบดัดแปลงมิเตอร์ไฟฟ้าโดยใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อควบคุมการระบุตัวเลขจากมิเตอร์ไฟฟ้าให้มีจำนวนตัวเลขน้อยกว่าความเป็นจริง และจากการตรวจสอบประวัติการชำระค่าไฟฟ้าบ้านเป้าหมายแรก มีเครื่องขุดเงินดิจิทัล 12 เครื่อง กำลังเครื่องละ 3.6 กิโลวัตต์ พบว่าเครือข่ายดังกล่าว จ่ายค่าไฟฟ้าเพียง 100 - 400 บาทต่อเดือน ทั้งที่ค่าไฟจริง เมื่อคำนวณตามกำลังของอุปกรณ์ จะประมาณ 150,000 บาท ทำให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สูญเสียรายได้จำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อการนำส่งรายได้ต่อรัฐ จึงได้ประสานขอความร่วมมือกรมสอบสวนคดีพิเศษในการปราบปรามเรื่องดังกล่าว

พ.ต.ต. ยุทธนา กล่าวว่า การกระทำผิดในเรื่องนี้ นอกจากเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคไฟฟ้ารายอื่นแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อการนำส่งรายได้แผ่นดินของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่นำส่งรายได้แผ่นดินเพื่อจะนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศ และเข้าข่ายความผิดฐานลักทรัพย์และลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 และมาตรา 335(1) และอาจมีความผิดอาญาอื่นที่เกี่ยวข้องอีกหลายฐานความผิด ซึ่งหากพบความผิดที่เข้าข่ายความผิด ที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 เพิ่มเติม ก็จะรับเป็นคดีพิเศษต่อไป​

 

Bottom-PL-HLW Bottom-PL-HLW

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ