จากกรณีที่มีคลิปเสียงของ เจ๊พัช น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวต้านโกง และ ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ อดีตนักแสดงชื่อดัง มีลักษณะการพูดคุยเหมือนเป็นการเรียกรับเงินจากบอสปัน ดิไอคอน เพื่อจะพามาออกรายการดังนั้น
ล่าสุด วันนี้ 13 พ.ย. 2567 น.ส.กฤษอนงค์ หรือ เจ๊พัช เปิดเผยในรายการเปิดโต๊ะข่าวว่า วันนี้ตนได้พูดคุยกับหนุ่ม กรรชัย แล้ว ตนมีหน้าที่ชี้แจงข้อเท็จจริงที่มี และตอนนี้กระแสสังคมมีธงอยู่ในมุมหนึ่งแล้ว ซึ่งไปไกลมากในประเด็นนี้
ก่อนหน้านี้ ปัน กับ พอล ได้มาหาตนเพื่อจะรับแผนงานที่เคยเสนอไปแล้ว เช่น เรื่องสื่อ เชิงรุก เชิงรับ และ แนวป้องกัน โดยพอล ได้ถามกับตนว่า พี่ครับผมควรจะไปออกรายการโหนกระแสไหม หรือ ผมควรไปออกอะไร ตนก็ตอบไปว่าจุดเกิดตรงไหนก็ไปตรงนั้น ตอนแรกพอล จะไม่ไปออกรายการ แต่หลังจากนั้นกลับเปลี่ยนใจพร้อมชวนตนไปออกรายการด้วย โดย พอล มาปรึกษาถามความคิดเห็น ตนก็ตอบไปถ้าพอลสามารถแก้ปัญหาได้ผู้เสียหายก็สามารถได้เงินกลับคืนแน่
วิธีเปลี่ยนเสียงเรียกเข้า-เสียงรอสายเฉพาะแชตบน LINE
ส่อง 30 ลุค! พร้อมเคาะคะแนน "โอปอล สุชาตา" ก่อนรอบพรีลิมฯ "Miss Universe 2024" 15 พ.ย.นี้!
ย้อนดูมูลค่าตัวเลขการซื้อลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก ในประเทศไทย
ส่วนเรื่องที่บอกว่ามีการยกเวลา ยกสปอนเซอร์ออก เพื่อให้ พอล ได้ชี้แจงทั้งหมด นั้น เจ๊พัช กล่าวว่า คุยกันวันนั้นเป็นการคุยกันที่ออฟฟิตของตน ซึ่งเป็นเวลาประมาณเที่ยงคืน และ เป็นการพูดคุยแบบกันเอง เพราะปันมาตนที่ออฟฟิต ตนก็ไม่รู้ว่าเขาแอบอัดเสียงไว้ เพราะวันนั้นเป็นหารือเรื่องงาน สรุปแผนงานตามที่เขาต้องการ ไม่ได้เกี่ยวกับตัวเลข 20 ล้านบาท
ส่วนที่มีการอ้างรายการโหนกระแส น.ส.กฤษอนงค์ กล่าวว่า ฟิล์ม ได้คุยกับหนุ่ม กรรชัย เบื้องต้น ซึ่งตอนนั้นใครก็อยากได้บอสพอล ไปออกรายการ เงิน 20 ล้านบาทมันอยู่ในแผนงาน แต่เป็นแผนงานที่ได้คุยไปแล้วเบื้องต้น ซึ่งก็ได้ถามบ ปันกับพอล ว่า มูลค่าธุรกิจเท่าไหร่ และ ปัญหานี้เราคิดจะแก้ในมูลค่าเท่าไหร่ โดยมูลค่าที่แก้ปัญหาคราวที่แล้วจำนวน 89 คนเสนอไป 2.1 ล้านบาท เขาก็ยังจ่ายให้ผู้เสียหาย 8.3 ล้านบาท คราวนี้ค่าเสียหายเท่าไหร่ก็ลองตั้งงบประมาณมา
“การไปออกรายการไม่ต้องเสียเงินอยู่แล้ว แต่ที่เขาเอาเรื่องเงิน 20 ล้านบาทมีตีพัช เพราะเขาต้องการให้พัช เสียเครดิต ให้ดูเป็นคนไม่ดี คุณบอกว่า คลิปเสียงไม่ได้ตัดต่อ แต่มันตัดตอนไหม ก่อนหน้านี้โทรมาขอคำแนะนำ และเรื่อง 20 ล้านบาทเป็นการเสนอแผนงาน คุณไม่ซื้อกับเรา คุณไปซื้อกับคนอื่นมันก็จบไม่เห็นจะเป็นประเด็นอะไร แต่พอมีเสียงฟิล์ม เข้ามาจึงเป็นประเด็น”