ท่ามกลางบรรยากาศ "เทศกาลลอยกระทง" ประจำปี 2567 ที่หลายคนจะเริ่มมองหาสถานที่ลอยกระทง แต่ขณะเดียวกันก็มีอีกหลายคนที่มองว่าการลอยกระทงคือการสร้างขยะลงแหล่งน้ำ
ซึ่งล่าสุดผู้ใช้โซเชียลมีเดียหลายคนได้แห่แชร์โพสต์ของเพจ “Nature Toon การ์ตูนสื่อความหมายธรรมชาติ” ซึ่งโพสต์รณรงค์อย่าลอยกระทง โดยโพสต์ไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ยังมีหลายคนให้ความนิยมและนำไปแชร์ต่ออย่างแพร่หลาย กว่า 5.3 หมื่นครั้ง
โดยโพสต์ดังกล่าวระบุว่า “บางที... การอนุรักษ์ประเพณีที่ดีที่สุด คือยึดที่แก่น ไม่ใช่ที่เปลือก และถ้าแก่นของการลอยกระทงคือขอขมาแหล่งน้ำ วิธีที่ดีที่สุดก็คือไม่สร้างขยะลงแหล่งน้ำ โดยที่เรายังมีวิธีอีกมากมายที่สนุกสนานกับงานลอยกระทงแบบที่ไม่ต้องลอยกระทง”
พร้อมกันนั้นยังโพสต์ภาพประกอบซึ่งมีเนื้อหาว่า กระทงรักษ์โลกไม่มีจริง ไม่ว่าจะเป็นกระทงใบตอง กระทงอาหารปลา กระทงกระดาษ กระทงขนมปัง หรือกระทงน้ำแข็ง ก็ไม่ถือเป็นกระทงรักษ์โลก
ดูบอลสด อุ่นเครื่อง ฟีฟ่า เดย์ ไทย พบ เลบานอน 14 พ.ย.67
โดย 5 ปัญหาจากกระทงประเภทต่างๆ คือ 1.ตะปู วันที่ 27 พ.ย. 2565 พบซากเต่าตนุเกยติ้นหาด ภายนอกไม่มีบาดแผล แต่เมื่อผ่าชันสูตรก็พบหมุดกระทงเต็มท้อง
2.ภาวะน้ำไร้ออกซิเจน ไม่ว่าจะ กระทงใบตอง กระทงขนมปัง กระทงอาหารปลา เมื่อมีมากเกินไปก็จะทำให้น้ำเน่า เพราะแบคทีเรียจะดึงออกซิเจนไปใช้ในกระบวนการย่อยสลายทให้ ปหล่งน้ำออกซิเจนลดลง จนสัตว์น้ำอยู่ไม่ได้ ประเพณีอันดีงามก็จะกลายเป็นการฆาตกรรมหมู่สัตว์น้ำ
3.สารพิษจากธูปเทียน ต่อให้เป็นกระทงน้ำแข็ง สิ่งที่เหลือก็คือ ขยะธูปเทียน ที่สร้างสารพิษสู่งแหล่งน้ำ เพราะสีย้อมก้านธูปมักเป็นสีย้อมผ้าที่เต็มไปด้วยโลหะหนัก ส่วนเทียนมักจะทำจากพาราฟินที่เป็นผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียม
4.สารเคมีจากน้ำหมึก(กรณีกระทงกระดาษ) เมื่อกระดาษละลาย สิ่งที่ปนเปื้อนแหล่งน้ำก็คือหมึกพิมพ์ที่เต็มไปด้วยสารเคมีและโลหะหนัก ส่งต่อสารพิษไปในห่วงโซ่อาหาร
5.ก๊าซมีเทนจากบ่อขยะ ต่อให้กระทงทั้งหมดถูกเก็บออกจากแหล่งน้ำปลายทางของมันก็คือกองรวมกันที่ภูเขาขยะ ส่งที่เกิดตามมาคือก๊าซมีเทน ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่กักเก็บความร้อนได้ดีกว่าคาร์บอนไดออกไซค์หลายสิบเท่า