นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม ออกมาแฉ "ศิลปิน ฟ.ฟัน" ที่กำลังมีประเด็นฉาวเกี่ยวข้องกับการเรียกรับเงินอยู่ในตอนนี้ ว่า ก่อนหน้านี้ที่ตนเองออกมาเปิดว่ามีการเรียกรับเงินสูงถึง 60 ล้านบาทนั้น ไม่ได้เกี่ยวกับที่เรียกรับเงินบริษัท "ดิไอคอน กรุ๊ป" 20 ล้านบาท และไม่ใช่การตบทรัพย์ แต่ศิลปินคนดังกล่าวได้ชักชวนผู้เสียหายร่วมลงทุน
โดยมีผู้เสียหายจากจังหวัดตรัง นำหลักฐานมามอบให้ตนเองดูว่ามีการหลอกให้ทยอยลงทุน แต่ไม่มีการนำเงินไปลงทุนจริง ซึ่งผู้เสียหายได้ไปแจ้งความไว้แล้ว
นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายอีก 4 ราย ที่ถูกหลอกลงทุนกับบริษัทต่างๆ ให้ข้อมูลมาที่ตนเอง ไม่ว่าจะเป็นบริษัทน้ำมันที่เคยให้ "ศิลปิน ฟ.ฟัน" ไปช่วยโปรโมท , บริษัททำเหรียญสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งมีผู้เสียหาย 8 คน มูลค่าความเสียหาย 100 ล้านบาท , บริษัทเกี่ยวกับการชำระเงินออนไลน์ และอีกรายทราบว่าเป็นเจ้าของคลินิกเสริมความงามที่จังหวัดน่านที่ตกเป็นเหยื่อ อยู่ระหว่างการประสานขอข้อมูล ความเสียหายค่อนข้างมาก เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า "ศิลปิน ฟ.ฟัน" เกี่ยวโยงกับกรณีต่างๆ ลักษณะสร้างความเชื่อมั่น ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับแชร์ลูกโซ่ก็ดี ธุรกิจขายตรงก็ดี ซึ่งตนเองก็ทราบว่าตอนแรกศิลปินดังกล่าวอาจจะไม่ทราบจริงๆ ว่าผิดกฎหมายหรือไม่ แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมา และมีการไปเจรจาเรียกรับเงิน ตนเองคิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ควรต้องดำเนินการ โดยเฉพาะส่วนของธุรกิจน้ำมัน ที่ศิลปินคนนี้ไม่ใช่แค่พรีเซนเตอร์แนะนำสินค้า แต่มีการชักชวนให้ร่วมลงทุนด้วยกัน มีการเดินสายไปจังหวัดต่างๆ ร่วมงานเลี้ยงกับนักการเมืองท้องถิ่นด้วย
บรรยากาศ "Miss Universe 2024" รอบ "พรีลิมฯ - ชุดประจำชาติ" เชียร์ "โอปอล สุชาตา" คว้ามงสาม!
พิกัดเว็บไซต์ “ลอยกระทงออนไลน์ 2567” ขอขมาพระแม่คงคาได้แค่ปลายนิ้ว
เฟส 2! รัฐเตรียมแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทให้ "กลุ่มผู้สูงวัย"
นอกจากนี้ยังได้รับข้อมูลจากผู้เสียหายอีกคนที่อยู่หมู่บ้านเดียวกับศิลปินคนดังกล่าวด้วยว่า ตัวศิลปินไม่ยอมจ่ายเงินค่าส่วนกลาง แถมยังมายืมเงินผู้เสียหายด้วย
ส่วนกรณีที่ศิลปินคนดังกล่าวอ้างว่ามีคลิปเสียงตนเองด้วย ตนเองก็ยอมรับว่ามีการพูดคุยกันกรณี 60 ล้านบาท ว่ามีการฟ้องร้องกันอยู่ และต้องการให้ตนเองทำรายการลักษณะคล้ายรายการโหนกระแส โดยได้งบประมาณมาจากภาครัฐ มีการพูดถึงคนอื่นๆ ที่มีการเรียกรับเงิน แต่ในส่วนของตนเองพยายามจะให้ทำความเข้าใจกับทั้ง 2 ฝ่ายอย่างตรงไปตรงมา และโปร่งใส ไม่ได้มีเรื่องการเรียกรับเงินใดๆ ทั้งสิ้น ดังนั้นหากอีกฝ่ายจะเปิดคลิป ตนเองก็ยินดี ไม่กังวล
พร้อมฝากบอกศิลปินคนนี้ ว่า "ให้การบนความจริงดีกว่า อย่าไปบิดเบือน หรือทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนมากไปกว่านี้ การให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกันรังแต่จะทำให้เกิดปัญหาใหม่ซ้อนทับขึ้นมา และเป็นปัญหาทางคดีความ ข้อกฎหมาย หากถูกตรวจสอบหรือจับได้ขึ้นมา ก็จะเสียประโยชน์ในการต่อสู้ในชั้นศาล"