ช่วงเช้าที่ผ่านมา 22 ธ.ค.2567 ตำรวจกองปราบปราม ได้นำหมายศาลจังหวัดปราจีนบุรี เข้าทำการตรวจค้น อาคารพาณิชย์ บริเวณสี่แยกไฟแดง ใน ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นที่พักสาวคนสนิทของนายสุนทร วิลาวัลย์ หรือ โกทร และพบว่าโกทรเดินทางมาที่นี่เป็นประจำ
รวมถึง สจ.โต้ง และรองอุ๊ ยังเคยเดินทางมาที่นี่ด้วย จากแนวทางการสืบสวนพบว่า สาวคนสนิทของโกทรคนนี้ เป็นคนที่ติดต่อโกทรตลอดเวลา และหลังจากเกิดเหตุ ก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย
แต่เมื่อเดินทางไปถึงไม่พบเจ้าของบ้าน เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้คีมตัดกุญแจเพื่อเปิดประตูเข้าไปตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว
จากการตรวจค้นนานกว่า 1 ชั่วโมง พบ ตู้เซฟ 1 หลัง พร้อมลัง เอกสารหลักฐานต่าง ๆ จำนวน 2 หลัง เจ้าหน้าที่จึงทำการยึดไปตรวจสอบ ที่ศูนย์ปฏิบัติการ 191 ข้าง สภ.เมืองปราจีนบุรี
และจากการสังเกตบริเวณหน้าอาคารหลังนี้ ยังพบว่ากล้องวงจรปิดจำนวน 3 ตัว ที่ติดไว้บริเวณด้านซ้าย กลาง และขวา ของตัวอาคาร ได้ถูกถึงปลั๊กไฟออกทั้ง 3 ตัว
ทั้งที่ก่อนเกิดเหตุไม่มีการดึงปลั๊กออกแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงตั้งข้อสังเกตว่า เจ้าของอาคาร หรือ อาจมีคนอื่น ไม่ต้องการให้กล้องวงจรปิดทั้ง 3 ตัว บันทึกภาพต่าง ๆ ไว้ได้
โดยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ตำรวจยังนำหมายค้นของศาลจังหวัดปราจีนบุรี เข้าตรวจค้น ที่สำนักงานของโกทร ซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านของโกทรหลังที่เกิดเหตุ
โดยพบว่า พนักงานในสำนักงานยังคงปฏิบัติงานตามปกติ ซึ่งตำรวจได้ใช้เวลาตรวจค้นนานกว่า 1 ชั่วโมง พร้อมนำหลักฐานข้อมูลในคอมพิวเตอร์ รวมทั้งเอกสารบางส่วนที่เกี่ยวข้อง และกล่องกระดาษ จำนวน 1 ลัง เพื่อไปทำการตรวจสอบที่ ศูนย์รับแจ้งเหตุแห่งชาติ 191 จังหวัดปราจีนบุรี
ส่วนที่มีรายงานว่า บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นลานจอดรถที่มีประตูลับติดกับบ้านของโกทร มีผู้หญิงคนหนึ่ง เปิดประตูบ้านก่อนจะมีรถยนต์ สีดำขับเข้าไปในบ้าน และ ขับออกมา ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ตำรวจกำลังเข้าเจรจาให้คนในบ้านโกทรวางอาวุธในวันเกิดเหตุ เนื่องจากยังไม่ทราบว่า สจ.โต้ง เสียชีวิตหรือไม่
วันนี้ ( 22 ธ.ค. ) ทีมข่าวพบกับ ผู้หญิงคนดังกล่าว ซึ่งได้ชี้แจงว่า รถคันดังกล่าว เป็นรถของเพื่อนที่ขับมารับ เพื่อจะไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นที่บ้านโกทร พอเพื่อนขับมารับได้ขับรถไปถึงบริเวณห้างเอกภาพ ปรากฎว่าทางตำรวจได้ปิดถนนไม่สามารถเข้าไปดูได้ จึงขับรถกลับเข้ามาที่บ้าน และพูดคุยเรื่องเสียงปืนกัน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ว่าจะมีคนร้ายเข้าออกบ้านตนเองอย่างแน่นอน