ทลายแก๊งเวียดนามลอบปลูกกัญชากลางกรุง เกือบ 1 พันต้น!

โดย PPTV Online

เผยแพร่

สืบ ตม.1 ทลายแก๊งเวียดนาม ลักลอบปลูกกัญชากลางกรุง ยึดของกลางดอกกัญชาเพียบ - ต้นกัญชากว่า 929 ต้น

พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผู้บังคับการกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ตำรวจกองกำกับการสืบสวนกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 น.ส.อรอนงค์ ศรีสุวรรณ นิติกรชำนาญการ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เจ้าหน้าที่สำนักทะเบียนกลาง กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เจ้าหน้าที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และฝ่ายสืบสวน สน.ประชาชื่น นำหมายค้นศาลอาญาเข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์ ภายในซอยงามวงศ์วาน 32 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ

คอนเทนต์แนะนำ
แฉ! “หมวดเก๊” หลอกอดีตนางแบบสาว ลวงทำค่ายมวย สูญเงินล้าน!
รวบสารวัตรสอบสวน สภ.สะเดา เรียกรับเงิน 1 แสน แลกประกันตัว-ค่าทำสำนวน
ตำรวจไซเบอร์ รวบนักร้อง 200 ล้านวิว โพสต์ชักชวนเล่นพนันออนไลน์!

ลอบปลูกกัญชา สตริงเกอร์ กทม.
ทลายแก๊งเวียดนามลอบปลูกกัญชากลางกรุง

หลังมีผู้แจ้งเบาะแสว่าสถานที่ดังกล่าวลักลอบปลูกกัญชาโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีแรงงานต่างด้าวที่ไม่ได้รับอนุญาตทำงาน โดยจุดที่เข้าค้นเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น จำนวน 3 คูหา บริเวณชั้น 1 ถูกดัดแปลงเป็นสถานที่เก็บปุ๋ยและห้องพักของคนงาน ชั้น 2 มีการดัดแปลงให้เป็นห้องสำหรับเพาะปลูก มีการติดตั้งอุปกรณ์ในการปลูก ตัวปรับสภาพอากาศ ติดแอร์กับพัดลม ตัวควบคุมการให้น้ำให้แสง พบต้นกัญชาโตเต็มวัยอยู่ภายในห้องประมาณ 108 ต้น ต้นกัญชาขนาดเล็กที่อยู่ในระหว่างการเพาะชำอีก 136 ต้น รวมทั้งต้นกัญชาเพิ่งแตกยอดอ่อนและเมล็ดสำหรับเตรียมงอกอีกประมาณ 455 ต้น ถุงดอกกัญชาแปรรูปอบแห้งจำนวน 1 ถุง

ส่วนบริเวณชั้น 3 และชั้น 4 มีการดัดแปลงห้องสำหรับปลูกกัญชาลักษณะเดียวกัน ซึ่งที่ชั้น 3 พบต้นกัญชาโตเต็มวัย จำนวน 128 ต้น ชั้น 4 พบต้นกัญชาโตเต็มวัยพร้อมออกดอก จำนวน 134 ต้น อย่างไรก็ตามตรวจสอบไม่พบว่าอาคารหลังดังกล่าวขอใบอนุญาตปลูกกัญชาถูกต้องตามกฎหมายกับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข แต่อย่างใด

นอกจากนี้ จากการเข้าตรวจค้นสถานที่ดังกล่าว พบนายเหงียน ง็อก ฮวน (Mr.NGUYEN NGOC HUAN) อายุ 49 ปี สัญชาติเวียดนาม รับเป็นผู้ดูแล แต่ไม่ได้ขออนุญาตทำงานในราชอาณาจักรแต่อย่างใด จึงได้ดำเนินการแจ้งข้อหาทำงานในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตและจำหน่ายหรือแปรรูปสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้า (กัญชา) โดยไม่รับอนุญาต พร้อมตรวจยึดดอกกัญชา 1 ถุง และต้นกัญชารวม 929 ต้น

ลอบปลูกกัญชา สตริงเกอร์ กทม.
ลอบปลูกกัญชากลางกรุง เกือบ 1 พันต้น

จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหายังไม่ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี อ้างว่ามาทำงานที่อาคารหลังดังกล่าวได้ 3 เดือน ร่วมกับเพื่อนอีก 2 คน แต่เนื่องจากเพื่อนที่เหลือได้กลับบ้านไปก่อน เพราะอยู่ในช่วงเทศกาล เลยเหลือตัวเองอยู่คนเดียว ผู้ต้องหายังไม่ให้การเกี่ยวกับเรื่องของการปลูกกัญชา อ้างว่ามีหน้าที่เพียงแค่ดูแลต้นกัญชา ซึ่งหลังจากนี้ทางตำรวจจะสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมว่า กัญชาที่พบนั้นใครเป็นเจ้าของและมีการส่งออกไปขายที่ใด รวมทั้งส่งออกไปยังต่างประเทศหรือไม่

ด้านน.ส.อรอนงค์ เปิดเผยว่า จากการเข้าร่วมตรวจสอบกับทางตำรวจพบว่า ผู้ครอบครองอาคารหลังดังกล่าวเป็นนิติบุคคล ซึ่งได้จดทะเบียนใบอนุญาตจัดจำหน่ายแปรรูปกัญชาที่ จ.กาญจนบุรี แต่ไม่ได้จดทะเบียนจัดจำหน่ายแปรรูปกัญชาในพื้นที่กรุงเทพมหานครแต่อย่างใด ดังนั้น อาคารพาณิชย์แหล่งดังกล่าวจึงปลูกกัญชาและแปรรูปดอกกัญชาโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนป้ายภายในอาคารที่ระบุว่าเป็นสถานที่แปรรูปกัญชาจึงเป็นป้ายที่ติดเพื่อสมอ้าง ส่วนใบอนุญาตของ อย. ที่พบในอาคารนั้น เป็นเพียงใบจดแจ้งว่ามีการปลูกกัญชากี่ต้นในระหว่างที่กฎหมายยังไม่ออก แต่ไม่ใช่ใบขออนุญาตแต่อย่างใด

น.ส.อรอนงค์ เปิดเผยว่า ปกติแล้วการปลูกกัญชาที่ให้ผลดอกเพื่อนำมาแปรรูป จะต้องจดทะเบียนขออนุญาตกับทางราชการ โดยในส่วนพื้นที่กรุงเทพมหานครต้องไปจดทะเบียนที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ส่วนพื้นที่ต่างจังหวัด ต้องไปจดทะเบียนที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ซึ่งใบอนุญาตจะใช้ได้เฉพาะแต่ละพื้นที่และเฉพาะสถานที่เท่านั้น ไม่สามารถมาใช้รวมกันในหลายๆ ที่ได้ โดยใบอนุญาตจะมี 3 ประเภท ได้แก่ ประเภทจัดจำหน่ายและแปรรูป ประเภทส่งออก และประเภทวิจัย

ลอบปลูกกัญชา สตริงเกอร์ กทม.
ทลายแก๊งเวียดนามลอบปลูกกัญชากลางกรุง เกือบ 1 พันต้น!

สำหรับกรณีดังกล่าวนั้น ตัวนิติบุคคลผู้ครอบครองอาคารรวมทั้งแรงงานจะถูกดำเนินคดีฐานไม่มีใบอนุญาตแปรรูปและจัดจำหน่ายสำหรับการปลูกกัญชาที่มีพืชดอก โดยมีโทษจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งถ้าหากพบว่ามีการส่งออกกัญชาแปรรูปไปยังต่างประเทศ ก็จะมีความผิดเพิ่มขึ้นอีก ส่วนของกลางนั้น ทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกจะดำเนินการยึดอายัดเอาไว้เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานในชั้นศาลต่อไป

สำหรับผู้ประกอบการที่คิดจะเพาะปลูกกัญชา โดยเฉพาะต้องการดอกกัญชามาใช้แปรรูปกับจัดจำหน่าย ต้องจดทะเบียนกับหน่วยงานราชการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งมีค่าธรรมเนียมที่ไม่แพง รวมทั้งเป็นการควบคุมให้กัญชาที่เพาะปลูกขึ้นมานั้นจัดจำหน่ายอย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการลักลอบจำหน่ายให้แก่เด็กและเยาวชนจนกลายเป็นปัญหาสังคมต่อไป

Bottom-PL-HLW Bottom-PL-HLW

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ