ล่าสุด ชุด สืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 นำโดย พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 นำกำลังฝ่ายสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ตำรวจ สภ.พระประแดง และ ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจค้นอพาร์ตเมนต์ ย่านรามคำแหง 52 กทม ตามหมายค้นศาลอาญา
สืบเนื่องจากเจ้าพนักงานตำรวจ บก.สส.ภ.1 สืบสวนเคสไอดี T68012525495 โดยคนร้ายใช้โทรศัพท์โทรหาผู้เสียหาย แอบอ้างข่มขู่ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดให้โอนเงินไปตรวจสอบ
ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงินไป เป็นจำนวน 20,000 บาท เมื่อตรวจสอบความเชื่อมโยงของเบอร์โทรศัพท์พบว่ามีความเชื่อมโยงกับคดีอื่นๆในลักษณะเดียวกันอีก จำนวน 3 คดี มูลค่าความเสียหายจำนวนมาก
ผลการตรวจค้นพบ
- เครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์แบบใส่ซิมการ์ด ( gsm gateway ) จำนวน 5 เครื่อง( ซึ่งสามารถใส่ซิมการ์ดได้ 64 ช่อง/เครื่อง )
- โมเด็มต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ต จำนวน 3 เครื่อง
- กล้องวงจรปิด จำนวน 1 ตัว
และสามารถควบคุมตัวผู้ที่เปิดห้องเช่าได้ 1 ราย ทราบชื่อนายแบล็ค (ผู้เปิดห้องเช่า) และ ผู้จ้างวาน 2 ราย ชื่อ นายโต้ และ นายเอ // นายแบล็ค ให้การว่า มีหน้าที่เข้ามาทำสัญญาเปิดห้อง จะได้ค่าจ้างอยู่ที่ห้องละ 5,000 บาท โดยจะเปิดห้องย่านรามคำแหง ที่ลับหูลับตาคนและอีกห้องคืออยู่ที่ย่านอ่อนนุช รวมเป็นเงิน 10,000 บาท
สำหรับเครื่องซิมบ็อกซ์ทั้ง 5 เครื่องที่ตรวจพบนั้น ปลายทางมีการใช้เสาสัญญาณในประเทศไทย แต่บุคคลที่หลอกลวงนั้นจะใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตจากประเทศเพื่อนบ้าน เชื่อมต่อมายังตัวปล่อยสัญญาณดังกล่าว
การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจาก คนร้ายใช้โทรหาผู้เสียหาย แอบอ้างข่มขู่ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดให้โอนเงินไปตรวจสอบ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงินไป เป็นจำนวน 20,000 บาท เมื่อตรวจสอบความเชื่อมโยงของเบอร์โทรศัพท์ พบว่า มีความเชื่อมโยงกับคดีอื่นๆในลักษณะเดียวกันอีก จำนวน 3 คดี มูลค่าความเสียหายจำนวนมาก
จากการตรวจสอบพบว่าหมายเลขที่ใช้ในการหลอกลวงนั้นมีการส่งสัญญาณซิมบ็อกซ์ ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้เฝ้าติดตามสืบสวนหาข่าว กระทั่งทราบว่าเครื่องดังกล่าวมีการนำมาตั้งปล่อยไว้ที่อพาร์ตเมนต์แห่งนี้
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ ฝากไปยังอพาร์ตเมนต์ และผู้ให้บริการห้องเช่า หากพบเหตุต้องสงสัยเช่นตัวคนไม่อยู่แต่ค่าไฟสูงผิดปกติ เพราะต้องเปิดแอร์ไปไว้ให้อุปกรณ์ไม่ร้อน ให้รีบประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจทันทีเพื่อเข้าดำเนินการต่อไป