หลังมีประเด็นเรื่องชาวอิสราเอลเข้ามาท่องเที่ยวและปักหลักอยู่ยาวในพื้นที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน และแย่งอาชีพคนไทย รวมทั้งมีข่าวว่ามีการเช่าร้านอาหารทำโบสถ์ยิว ซึ่งห้ามคนไทยเข้านั้น
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เซ็นลงนามในหนังสือถึง รอง ผบ.ตร. / ผู้ช่วย ผบ.ตร. /ผู้บัญาชาการตำรวจนครบาลและ ตำรวจภูธรภาค 1-9 รวมถึง ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ให้ตรวจสอบพฤติกรรมกลุ่มคนต่างด้าวในพื้นที่รับผิดชอบ
โดยคำสั่งดังกล่าว ระบุว่า ด้วยปรากฎข้อมูลข่าวสารว่ามีกลุ่มคนต่างด้าวในหลายพื้นที่มีพฤติกรรมที่อาจขัดต่อความสงบของสังคม หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ฝ่าฝืนกฎหมายบ้านเมืองก่อความวุ่นวายเดือดร้อนรำคาญในที่สาธารณะ ตลอดจนการรวมกลุ่มแสดงออกหรือจัดกิจกรรมในลักษณะที่กระทบภาพลักษณ์และความมั่นคงของประเทศ จึงกำชับให้หน่วยดำเนินการ
เช่น ให้ สตม.ตรวจสอบสถานะของคนต่างด้าว ตรวจสอบการพิจารณาอนุญาตคนต่างด้าว พิจารณาพฤติการณ์ที่สมควรเพิกถอนหรือไม่ตรวจอนุญาตต่อไป กรณีมีพฤติการณ์ลักษณะที่แอบแฝงหรือกระทำความผิดในลักษณะที่เป็นภัยต่อสังคม หรือจะก่อเหตุร้ายให้เกิดอันตรายต่อความสงบสุขหรือความปลอดภัยของประชาชน หรือความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หรือมีพฤติการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ หรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายของสังคมโดยรวม ให้ดำเนินคดีและพิจารณาเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร และให้หน่วยงานต่างๆ เช่น ตำรวจท่องเที่ยว ประชาสัมพันธ์เชิงรุก ชี้แจงนักท่องเที่ยว
ส่วนตำรวจภูธรภาค 5 ตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน กรณีที่ปรากฏข้อมูลกลุ่มคนต่างด้าวในพื้นที่ อ.ปาย ให้ตรวจสอบและรายงานผลการปฏิบัติให้ทราบภายใน 7 วัน (ห้ามผัดส่ง)
สำหรับที่มาของเรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้มีข่าวว่า มีกลุ่มชาวอิสราเอลไปสร้างความวุ่นวายและสูบกัญชาในโรงพยาบาลในเมืองปาย ต่อมาทางตำรวจตรวจคน เข้าตรวจสอบและผลักดันกลับประเทศ ขณะที่ผู้ว่า จ.แม่ฮ่องสอน ออกประกาศแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เคารพกฎหมายไทย
ขณะที่ พ.ต.ท.วิชัย ปันนา สารวัตรตำรวจตรวจคนเข้าเมืองแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้เข้าจับกุมนักดนตรีต่างชาติ 4 คน มีทั้งชาวอิสราเอล บราซิลและไอซ์แลนด์ รวม 4 คน ที่เข้ามาเปิดร้านอาหารและเล่นดนตรีโดยไม่ได้ขออนุญาตทำงานอย่างถูกต้อง อยู่ระหว่างรอคำสั่งอนุมัติผลักดันกลับประเทศ
ขณะที่เหตุดังกล่าว มีหญิงที่เป็นแฟนหนึ่งในนักดนตรีทำหนังสือร้องเรียนผู้สื่อข่าวว่า เจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ เพราะแค่ขึ้นแจมเล่นดนตรีในร้านเล็ก ๆ ไม่ถึงขั้นต้องผลักดันกลับประเทศ และอ้างว่าชาวต่างชาติกลุ่มนี้กำลังวางแผนไปร่วมเล่นดนตรีในประเทศญี่ปุ่น
อีกกรณีเป็นการตรวจสอบโบสถ์ยิวหลังโรงพักปายหลังเพจหนึ่งอ้างว่า มีการปล่อยเช่าร้านอาหาร ทำโบสต์ชาวยิว โดยไม่ให้คนไทยไปใช้บริการ ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบไม่พบว่ามีการทำผิดกฎหมายและผู้ดูแลโบสถ์รวมไปถึงนักบวช ระบุว่า เป็นที่ตั้งการปฏิบัติศาสนกิจของชาวยิวเท่านั้น ไม่ได้มีการจัดงานปาร์ตี้อย่างที่หลายคนเข้าใจ ขณะที่ข้อเท็จจริงคือโบสถ์ดังกล่าว ไม่ได้เป็นร้านอาหาร แต่มีบริษัทที่เป็นของชาวยิวซื้ออาคารไปทำเป็นโบสถ์ และชาวบ้านรอบข้างบอกว่า ไม่ได้ส่งเสียงดังรบกวน
ด้านเวปเพจ World Update รายงานว่า ได้มีสื่ออิสราเอล รายงานว่า มีชาวยิวอิสราเอล ที่หยุดพักการสู้รบสงครามกับเขตกาซา ปาเลสไตน์ และกับเลบานอน กว่า 30,000 คน มุ่งหน้าย้ายมา "ตั้งถิ่นฐาน" ใน อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ของไทย โดยสมาคมยิว Chabad (คาบัด)ที่แผ่อิทธิพลทั่วโลก ให้การสนับสนุน มีการสร้างโครงสร้างพื้นฐานรองรับ เช่น โบสถ์ Chabad of Pai (อ่านว่าคาบัด ออฟปาย) ที่ห้ามคนไทยเข้าไปเด็ดขาด อนุญาตเฉพาะชาวยิว เข้าไปประกอบพิธีสวดทางศาสนา
โดยส่งเสียงดังรบกวนวิถีชีวิตชาวไทย และเปิดธุรกิจหลายอย่าง เพื่อรองรับสังคมขยายชาวยิวเช่น ร้านอาหาร รีสอร์ท ร้านตัดผม สารพัดอาชีพสงวนของชาวไทย เพื่อรองรับชาวยิวโดยเฉพาะ มีชาวยิวอิสราเอล ลงทะเบียนใน อ.ปาย 31,735 คน เข้าๆ ออกๆ แต่ตั้งถิ่นฐานอยู่ยาวประมาณ 3,000 คน ชาวไทย ใน อ.ปาย คนพื้นที่มีประมาณ 21,000 คน
โดยระบุว่า ลัทธิ Chabad มีอิทธิพลอย่างมาก พวกเขายึดครองนครนิวยอร์ค และตำรวจสหรัฐ พบว่าพวกเขาขุดอุโมงค์ใต้ดินลึกลับ เชื่อมระหว่างตึก กระทำพิธีบางอย่าง พบว่าเว็ปไซต์ Chabad ยิวในไทย ประกาศเชิญชวนชาวยิว ย้ายมาตั้งถิ่นฐานที่ อ.ปาย แม่ฮ่องสอน อ้างว่าสงบสุขและสวยงามกว่าอิสราเอล
ขณะที่หัวหน้าช่างของโบสถ์ ให้ข้อมูลว่า โบสถ์ดังกล่าวจะมีกิจกรรมในช่วงวันศุกร์และเสาร์ โดยผู้ทำกิจกรรมมีประมาณ 100 คน และเป็นนักท่องเที่ยวที่หมุนเวียนกันมา