นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ตามที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีนโยบายสั่งการให้ปราบปรามการลักลอบนำเข้า - ส่งออกบุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจัง รวมถึงการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเร่งด่วนให้เห็นผลภายใน 30 วัน นับแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2568 โดยวันนี้(วันที่ 20 มีนาคม 2568) กรมศุลกากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สถานีตำรวจภูธรแหลมฉบัง และตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ได้ทำการตรวจสอบตู้สินค้าตกค้าง จำนวน 8 ตู้คอนเทนเนอร์ ณ สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี พบมีการซุกซ่อนบุหรี่ไฟฟ้าปะปนมากับสินค้าอื่น มีรายละเอียดดังนี้ บุหรี่ไฟฟ้าชนิดใช้แล้วทิ้ง จำนวน 249 กล่อง (รวม 51,390 ชิ้น) มูลค่า 9,250,200 บาท เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 6 กล่อง (รวม 2,307 ชิ้น) มูลค่า 2,153,500 บาท อุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 2 กล่อง (รวม 2,350 ชิ้น) มูลค่า 117,500 บาท หัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 13 กล่อง (รวม 7,350 ชิ้น) มูลค่า 1,102,500 บาท จำนวนรวม 64,397 ชิ้น มูลค่ารวม 12,623,700 บาท
มีความผิดตาม พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560 และเป็นของต้องห้ามตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง สินค้าต้องห้ามนำผ่านราชอาณาจักร พ.ศ. 2559 ประกอบประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ.2557