อย่าหาทำ! จับกุมรถติดป้ายที่ระลึกงานรับปริญญา-ป้ายแดงปลอม ใช้เป็นป้ายทะเบียน

เผยแพร่ 22 เม.ย. 2568 ,10:38น.

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับกุมรถติดป้ายที่ระลึกงานรับปริญญา และด้านหน้าติดป้ายแดงปลอม สืบพบว่าเป็นรถจากตลาดมืด นำส่งคืนผู้เสียหาย

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.)ร่วมกันจับกุม นายภัทราวุธ อายุ 49 ปี ผิดปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม (ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268) พร้อมตรวจยึดของกลาง รถยนต์ส่วนบุคคล ยี่ห้อ Honda รุ่น CR-V สีเทา ทะเบียน เพชรบูรณ์ พร้อมกุญแจรถ 1 ดอก , แผ่นป้ายทะเบียนป้ายแดงด้านหน้า หมายเลข “01958 ใช้เพื่อขายหรือเพื่อซ่อม” จำนวน 1 แผ่น , แผ่นป้ายทะเบียนป้ายแดงด้านหลัง หมายเลข “จบ 2556 มหาวิทยาลัยบูรพา” จำนวน 1 แผ่น

อย่าหาทำ! จับกุมรถติดป้ายที่ระลึกงานรับปริญญา-ป้ายแดงปลอม ใช้เป็นป้ายทะเบียนจริง

จับกุมได้หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงหนองใหญ่ ตำบลหนองใหญ่ อำเภอหนองใหญ่ จังหวัดชลบุรี

เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล. ออกตรวจป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมบนท้องถนน พร้อมอำนวยความสะดวกด้านการจราจรช่วงเทศกาลสงกรานต์ ได้พบรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น CR-V สีเทา สภาพเก่า ติดแผ่นป้ายทะเบียนป้ายแดงทั้งด้านหน้าและหลัง ขับขี่อยู่บนถนนโดยมีนายภัทราวุธ เป็นผู้ขับขี่

จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้ขับขี่สามารถแสดงใบอนุญาตขับขี่ได้ แต่ไม่สามารถแสดงเอกสารประจำรถ หรือคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ได้ เมื่อตรวจสอบแผ่นป้ายทะเบียน พบว่าแผ่นด้านหน้าเป็นป้ายแดงหมายเลข “01958 ใช้เพื่อขายหรือเพื่อซ่อม” ส่วนด้านหลังเป็นป้ายแดงหมายเลข “จบ 2556” ซึ่งทั้งสองแผ่นไม่เป็นไปตามลักษณะที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด และไม่พบข้อมูลการออกป้ายจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบข้อมูลจากเลขตัวถังรถยนต์ ผ่านระบบ CRIMES ONLINE ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่ารถคันดังกล่าวมีทะเบียนจริง คือ “เพชรบูรณ์” แต่มีสถานะ “ระงับการใช้” โดยผู้ถือกรรมสิทธิ์ และครอบครองรถคือ นางธนิษศาศ์

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมตัวนายภัทราวุธฯ ไว้เพื่อดำเนินคดีในข้อหาเกี่ยวกับการใช้แผ่นป้ายทะเบียน ไม่ถูกต้อง และอาจพิจารณาดำเนินคดีเพิ่มเติม หากพบการกระทำที่เข้าข่ายความผิดทางอาญา เช่น การครอบครองรถโดยมิชอบหรือรับของโจร พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อไปยังนางธนิษศาศ์ฯ ซึ่งยืนยันว่ารถยนต์คันดังกล่าวเป็นของตนเอง

และระบุว่าได้ถูกหลอกให้นำรถไปจำนำกับหญิงคนหนึ่งชื่อ “นางกุ้ง” (ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง) ซึ่งเป็นคนรู้จักกัน โดยในช่วง พ.ศ. 2566 – 2567 ได้ตกลงนำรถไปเป็นหลักประกันเงินกู้จำนวน 6,000 บาท หลังจากนั้น ไม่สามารถติดต่อกับนางกุ้ง ได้อีกเป็นเวลากว่า 2 ปี กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชลบุรีติดต่อไป
เพื่อให้นำเอกสารมาแสดงเพื่อขอรับรถคืน นางธนิษศาศ์ ได้เดินทางมายัง ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล. (ชลบุรี) พร้อมนำเอกสารยืนยันความเป็นเจ้าของรถมามอบต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และให้ถ้อยคำประกอบการรับรถคืน

สอบถามคำให้การเบื้องต้น ได้ความว่า นายภัทราวุธ ซื้อรถของกลางมาจากตลาดมืดในราคา 40,000 บาท เมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายน 2566 และมีการนัดส่งมอบรถที่บริเวณห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในย่านมีนบุรี ซึ่งมีชายไทยวัยรุ่น จำนวน 2 ราย เป็นผู้ขับรถมาส่งให้ถึงที่ อย่างไรก็ตาม นายภัทราวุธ ไม่สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับ ชื่อ-สกุล หรือรายละเอียดของผู้ขายได้ โดยอ้างว่าไม่รู้จักกันมาก่อน และไม่ได้มีการติดต่อกันอีกหลังจากส่งมอบรถเสร็จสิ้น

ตำรวจยังเตือนภัย ว่าการนำแผ่นป้ายที่ระลึกวันรับปริญญามาใช้แทนแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์จริง อาจเข้าข่ายความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา

และจากการปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชลบุรีได้ดำเนินการประสานงานกับนางธนิษศาศ์ ผู้เสียหาย เพื่อให้นำเอกสารแสดงสิทธิการครอบครองรถยนต์มาแสดงตนรับมอบรถคืนเป็นที่เรียบร้อย

และผู้เสียหายได้แสดงความขอบคุณต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชลบุรี ที่ได้ดำเนินการตรวจสอบ ติดตาม และประสานงาน อย่างเต็มความสามารถ จนสามารถติดตามและส่งมอบรถยนต์คืนแก่ผู้เสียหายได้โดยสำเร็จ