นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เสนอ นายคารม กล่าวว่า ปัจจุบันประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาได้วางหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้เสียหายหรือพยานจากการนึกถึงความทรงจำหรือข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีที่กระทบกระเทือนต่อจิตใจอย่างรุนแรงไว้เฉพาะกรณีที่ผู้เสียหายหรือพยานนั้นเป็นเด็กอายุไม่เกิน18 ปี
โดยการกำหนดให้มีสหวิชาชีพร่วม (บุคคลในสาขาอาชีพต่าง ๆ) เข้ามามีบทบาทในชั้นการสอบสวน ภายใต้สถานที่ที่เป็นส่วนสัดสำหรับเด็ก
ทั้งยังห้ามถามปากคำเด็กซ้ำซ้อนหลายครั้งโดยไม่มีเหตุอันสมควร และยังกำหนดให้สามารถนำสื่อภาพและเสียงที่ได้บันทึกไว้ในชั้นสอบสวนมาถ่ายทอดในชั้นศาลแทนการเบิกความในชั้นศาลเพื่อป้องกันผลร้ายที่จะเกิดขึ้นกับเด็กนั้น อย่างไรก็ตาม หลักการคุ้มครองผู้เสียหายหรือพยานจากการนึกถึงความทรงจำหรือข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีที่กระทบกระเทือนต่อจิตใจอย่างรุนแรงดังกล่าวไม่ครอบคลุมไปถึงผู้เสียหายหรือพยานที่เป็นบุคคลอายุเกินสิบแปดปี ซึ่งหากเป็นกรณีผู้เสียหายหรือพยานเป็นบุคคลอายุเกินสิบแปดปี แม้ว่าการเบิกความในชั้นศาลจะส่งผลร้ายหรือผลกระทบกระเทือนต่อจิตใจของบุคคลนั้นอย่างรุนแรงแต่ก็ไม่สามารถใช้มาตรการใดเพื่อคุ้มครองบุคคลดังกล่าวได้โดยตรง คงใช้ได้แต่มาตรการที่คุ้มครองในด้านอื่น ๆ เช่น
การสืบพยานโดยไม่เผชิญหน้าโดยตรงกับจำเลย ซึ่งแม้ว่าอาจแก้ปัญหาเกี่ยวกับความกลัวเกรงที่ผู้เสียหายมีต่อจำเลยได้ แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาสภาพจิตใจของผู้เสียหายจากการต้องนึกถึงข้อเท็จจริงที่กระทบกระเทือนต่อจิตใจได้
นายคารม กล่าวต่อว่า ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับ ..) พ.ศ. ..ที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการรับคำร้องทุกข์ การถามปากคำผู้เสียหายหรือพยาน การไต่สวนมูลฟ้อง และการพิจารณาและการสืบพยานในคดีความผิดเกี่ยวกับเพศ เช่น คดีอนาจาร คดีข่มขืนกระทำชำเรา ฯลฯหรือคดีที่มีผลกระทบกระเทือนต่อจิตใจอย่างรุนแรง เช่น คดีที่เกี่ยวกับการใช้ความรุนแรงในครอบครัว (ทำร้ายร่างกายบุคคลในครอบครัว ฯลฯ) เพื่อให้มีมาตรการคุ้มครองพยานและผู้เสียหายที่อายุเกิน 18 ปีได้เช่นเดียวกับการคุ้มครองพยานและผู้เสียหายที่ใช้กับผู้ที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี
โดยกำหนดให้การรับคำร้องทุกข์ การถามปากคำผู้เสียหายหรือพยาน ในคดีที่ผู้เสียหายหรือพยานในคดีความผิดเกี่ยวกับเพศหรือคดีที่มีผลกระทบกระเทือนต่อจิตใจอย่างรุนแรงต้องแยกกระทำเป็นส่วนสัดและจัดให้มีการบันทึกภาพและเสียงการถามปากคำภายใต้ความยินยอมของผู้เสียหายหรือพยาน กำหนดให้ศาลมีอำนาจในการจัดให้มีการถ่ายทอดภาพและเสียงคำให้การของผู้เสียหายหรือพยานที่ได้บันทึกไว้ในขั้นสอบสวนหรือในชั้นไต่สวนมูลฟ้องโดยให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของคำเบิกความของพยานนั้นในชั้นพิจารณาของศาล (กรณีพยานหรือผู้เสียหายที่มีอายุเกิน 18 ปี ในชั้นการพิจารณาของศาล ยังคงมาปรากฏตัวต่อศาลแต่หากเป็นพยานหรือผู้เสียหายที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี อาจไม่มาศาลได้หากมีเหตุจำเป็นอย่างยิ่ง เช่น ป่วย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 172 ตรี วรรคสี่) ประกอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นชอบในหลักการ
ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรมได้ดำเนินการจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามแนวทางการจัดทำและการเสนอร่างกฎหมายตามบทบัญญัติมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมติคณะรัฐมนตรี (19 พฤศจิกายน 2562) เรื่อง การดำเนินการเพื่อรองรับและขับเคลื่อนการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีด้วยแล้ว