วันที่ 13 พ.ค.2568 นายพงศธร สุวรรณรักษา หรือ “ทนายอาร์ม” ในฐานะตัวแทนภาคประชาชนในจังหวัดสงขลา เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เพื่อขอให้ตรวจสอบจริยธรรมทางการเมืองกรณีนายสิรดนัย พลายด้วง หรือ สจ.กอล์ฟ ที่ก่อเหตุสั่งการลูกน้องรุมทำร้ายตำรวจหน้าหน่วยเลือกตั้ง เพื่อให้สภา อบจ. เสนอวาระประชุมเร่งด่วนเพื่อสอบสวนจริยธรรม ซึ่งมีนาย วรพงศ์ ปราบ รองประธานสภาอบจ.สงขลารับเรื่อง
โดยทนายอาร์ม กล่าวว่า วันนี้มายื่นเพื่อให้ สภา อบจ.สงขลา ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อพฤติกรรม ของ ส.อบจ.คนดังกล่าว โดยเฉพาะ ตาม พรบ.อบจ.พศ.2540 มาตรา 11 (7)การสิ้นสุดสถานภาพของสมาชิก ที่ระบุว่าหาก ส.อบจ.มีพฤติกรรมทำให้เสื่อมเสีย
สมาชิก 1 ใน 3 สามารถเสนอญัติเข้าพิจารณา ในสภา อบจ. และสามารถ ลงมติต้องมีชื่อ 2 ใน 3 จึงจะสามารถถอดถอนออกไป แม้จะ รู้ว่า ส.อบจ.คนนี้ มีความเกี่ยวข้องกับสภา กับนายก อบจ. อย่างไร
ส่วนในภาคประชาชนเราต้องการให้มีการยื่นญัตติ เข้าไปในสภา ให้ประชาชนเห็นว่าสภา อบจ.ได้มีการทำหน้าที่ในฐานะสภา ส่วนผลจะออกมาอย่างไรก็เป็นเรื่องที่ประชาชนต้องติดตาม โดยคาดหวังว่า เมื่อสภา อบจ.มีการพิจารา ถกเถียงกันแล้ว เชื่อว่าพฤติกรรมลักษณะไม่ควรเกิดขึ้นขึ้น มาตรทางจริยธรรมจะเกิดขึ้นและจะทำให้ไม่มีใครกล้าทำแบบนี้อีกต่อไป
ขณะที่นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ตนได้รับรายงานเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วก็มีความรู้สึกเหมือนทุกคนที่รับทราบเรื่อง แต่อยากให้เข้าใจว่าการแสดงพฤติกรรมใดก็แล้วแต่ที่ไม่เหมาะสมนั้นเป็นเรื่องของบุคคลมิได้เกี่ยวข้องกับทีมหรือองค์กรใด
แต่ตนเองฐานะฝ่ายบริหารก็ต้องดำเนินการผ่านประธานสภาอบจ.และคงต้องเรียกสมาชิกสภามาสอบถามโดยผ่านประธานสภา เพื่อตักเตือนเกี่ยวกับการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมก็คือเราสอบตกเรื่องคุณธรรมจริยธรรม
ส่วนใครจะมองว่าเป็นพี่น้อง ยืนยันว่าตอนที่ตนตั้งทีมมา ไม่ได้ตั้งเป็นพรรคการเมือง ตนเองแค่ตั้งทีมบริหาร ขณะนั้นใครอยากจะมาอยู่ทีมตนก็ไม่ขัดขัอง ซึ่งหลังจากนี้ก็ต้องมาดูกระบวนการว่าอำนาจของ อบจ. ว่าจะดำเนินการเรื่อง สจ.กล์อฟได้แค่ไหนอย่างไร