จากกรณีที่โลกโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์หญิงรายหนึ่ง ที่โพสต์ขอรับบริจาคค่ารักษามะเร็ง 520,000 บาท โดยอ้างว่าต้องใช้สำหรับยานอกสิทธิประกันสังคม และตนเองตกงาน จึงไม่มีสิทธิ์รักษาฟรี พร้อมสวมชุดผู้ป่วยโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ก่อนที่ต่อมาจะพบว่ามียอดบริจาคเกินเป้าเพียงข้ามคืน แต่กลับชี้แจงต่อสาธารณะในจำนวนี่น้อยกว่า และยังถูกจับได้ว่าโอนเงินกว่า 1.1 ล้านบาทเข้าบัญชีแม่โดยไม่มีคำอธิบายชัดเจน นั้น
โรงพยาบาลกรุงเทพพิษณุโลก เผยแพร่ ประกาศจากโรงพยาบาลกรุงเทพพิษณุโลก ระบุว่า
โรงพยาบาลกรุงเทพพิษณุโลก ในเครือ BDMS เราใส่ใจทุกการรักษา ด้วยจริยธรรมและความโปร่งใส แม้ว่าโรงพยาบาลจะไม่ได้ให้บริการรักษาผู้ป่วยสิทธิประกันสังคมโดยตรง แต่เรายินดีให้ความร่วมมือกับภาครัฐตามข้อตกลงระหว่างโรงพยาบาล
หากมีการส่งตัวผู้ป่วยมาเพื่อการตรวจวินิจฉัยหรือการรักษา โรงพยาบาลสามารถให้บริการตามขั้นตอนที่ภาครัฐกำหนด และดำเนินการเบิกค่าใช้จ่ายจากภาครัฐโดยไม่เรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากผู้ป่วย
ทั้งนี้ ยกเว้นกรณีที่ผู้ป่วยร้องขอรับบริการตรวจเพิ่มเติมนอกเหนือจากสิทธิที่ภาครัฐครอบคลุม ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า โรงพยาบาลกรุงเทพพิษณุโลก ดำเนินงานภายใต้หลักจริยธรรมทางการแพทย์ ความโปร่งใส และความเป็นธรรมในทุกขั้นตอน
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าว สืบเนื่องจากกรณีของหญิงรายหนึ่ง ที่อ้างว่าเป็นผู้ป่วยมะเร็งระยะที่ 3 ได้โพสต์ขอรับบริจาคเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม โดยอ้างว่าต้องใช้เงิน 520,000 บาท สำหรับยามุ่งเป้าเข็มละ 30,000 บาท จำนวน 18 เข็ม พร้อมระบุว่ายานอกสิทธิประกันสังคมและตนเองตกงาน จึงไม่มีสิทธิ์รักษาฟรี
เพียงข้ามคืน ยอดบริจาคพุ่งเกินกว่าเป้าหมายหลายเท่า โพสต์ถูกแชร์นับหมื่นครั้ง แต่กลับไร้การอัปเดตยอดบริจาค ขณะที่มีผู้ตั้งข้อสงสัยว่าทำไมจึงเลือกเข้ารับการรักษาโรงพยาบาลเอกชนทั้งที่มีสิทธิ์บัตรทองรักษาฟรี รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ยืนยันว่าสิทธิรักษาที่มีอยู่สามารถเบิกจ่ายได้
สถานการณ์ยิ่งตึงเครียด เมื่อมีการตรวจสอบพบว่า ยอดบริจาคสูงถึง 1.6 ล้านบาท แต่เธอกลับชี้แจงสาธารณะเพียง 570,000 บาท อีกทั้งยังถูกจับได้ว่าโอนเงินกว่า 1.1 ล้านบาทเข้าบัญชีแม่โดยไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจน พร้อมเปลี่ยนเหตุผลไปมา ทั้งอ้างว่า “ให้แม่เก็บ”, “กันเงินรักษา”, หรือ “กลัวถูกแฮก”
กระแสสังคมจึงกดดันให้เธอแสดงหลักฐานค่ารักษาและใบเสร็จ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ปรากฏเอกสารยืนยันใด ๆ ขณะเดียวกัน บิวเริ่มทยอยโอนเงินคืนให้กับบางผู้บริจาคที่ทักขอคืน แต่ไม่ได้ประกาศเปิดเผยหรือให้ช่องทางยืนยันชัดเจน
นอกจากนั้น ยังมีผู้เปิดเผยพฤติกรรมในอดีตของหญิงรายดังกล่าว ทั้งกรณีติดหนี้ โพสต์ประจานผู้อื่น รวมถึงคดีความที่อยู่ระหว่างชั้นศาล ทำให้ข้อสงสัยยิ่งทวีความร้อนแรง และถูกตั้งคำถามว่าการรับบริจาคครั้งนี้มีเจตนาบริสุทธิ์จริงหรือเข้าข่ายหลอกลวงผู้บริจาค