นายศรชัย ชูวิเชียร รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึง ผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ หรือ ITA 2025 ประเภทหน่วยงานองค์กรอิสระ ที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้คะแนนอันดับ 1 อยู่ที่ 94.64 คะแนน
โดยมีผลการประเมินตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ให้ความเห็นชอบ แต่เป็นสิ่งที่ค่อนข้างจะค้านสายตาประชาชน และวิพากษ์วิจารณ์อย่างแพร่หลาย
นายศรชัยบอกว่า ITA เป็นเรื่องของการให้คะแนนตามหลักธรรมาภิบาล การดำเนินการ ป.ป.ช. จะมีเครื่องมือมาเป็นตัววัด และผู้เชี่ยวชาญที่จะประเมิน แบ่งออกเป็น 3 ส่วน
โดยเครื่องมือตัวแรก คือ IIT จะเป็นบุคคลในองค์กรนั้นที่มีประสบการณ์ทำงานมาไม่น้อยกว่าหนึ่งปี ที่จะประเมินในเรื่องของการใช้อำนาจผู้บริหาร การใช้ทรัพย์สินของราชการ และความตั้งใจในการป้องกันการทุจริต ผ่าน 15 ข้อคำถาม โดยจะมีการประเมินการภายในว่ามีการรับรู้เป็นอย่างไรบ้าง
ส่วนเครื่องมือตัวที่ 2 จะเป็นบุคคลภายนอก ที่ติดต่อเข้าไปที่หน่วยงานนั้นเรียกว่า EIT หรือ ผู้ที่มีส่วนได้เสียภายนอก ประกอบด้วยบริษัทเอกชนหรือกลุ่มบริษัทคู่สัญญา ที่เข้าไปติดต่อมีการรับรู้เป็นอย่างไรบ้าง มีเรียกรับสินบนหรือไม่
และเครื่องมือตัวที่ 3 คือ OAT หรือ ศูนย์กลางข้อมูลเปิด ที่จะเป็นเรื่องการเปิดเผยข้อมูลความโปร่งใส ทั้งการจัดซื้อจัดจ้าง E-service และการบริหารบุคคลผ่านคำถามต่าง ๆ ทั้ง 28 ข้อ ซึ่งถ้าหน่วยงานที่เข้าร่วมการประเมิน เปิดเผยข้อมูลทุกอย่างตามหลักเกณฑ์
รองเลขาธิการ ป.ป.ช. บอกต่อว่า หลักเกณฑ์ของคำถามจะไม่ได้เจาะลึกไปในรายละเอียดว่าบริษัทไหนได้รับงาน หรือมีการกีดกัน หรืออุปสรรคต่าง ๆ อย่างเครื่องมือชี้วัตัวที่ 2 ตรงนี้ต้องขอบอกว่าคะแนนไม่ได้สูงไปจากเมื่อปีที่แล้ว
แต่กลับกัน บุคคลภายในองค์กรมองบุคคลภายในองค์กรกันเองกลับได้คะแนนที่สูง ซึ่งเป็นการมองบุคคลและการทำงานภายในกันเอง ผ่านหลักเกณฑ์ข้อคำถามต่าง ๆ ซึ่งต้องบอกว่าการแบ่งหลักเกณฑ์คะแนนแต่ละเครื่องมือตัวชี้วัดก็จะแบ่งไปตามสัดส่วนคือ 30 30 และ 40 คะแนน ซึ่งเมื่อรวมแล้วก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินได้คะแนนมาเป็นอันดับที่ 1 จาก 5 องค์กรที่เป็นหน่วยงานองค์กรอิสระไม่ใช่ระดับประเทศ
นายศรชัย ย้ำว่า ต้องเข้าใจตรงกันว่า การประเมิน ITA หรือรางวัลความเป็นธรรมและความโปร่งใส ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดบอกว่าองค์กรที่ได้รับมีการทุจริตหรือไม่ อาจจะมีเพียงคำถามบางคำถามเท่านั้น แต่จะเน้นไปในเรื่องของความโปร่งใสและธรรมาภิบาลในองค์กรนั้น ว่ามีมากหรือน้อยเพียงใด
นอกจากนี้คุณสมบัติของคณะกรรมการที่เข้ามา มีการคัดเลือกผู้บริหารระดับสูงจากทุกองค์กร และมีความเชี่ยวชาญในหลายภาคส่วน และยังมีหน่วยงานหลักในการกำกับทั้งกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงอุดมศึกษาฯ ซึ่งมีการแกร่งกรองตรวจสอบพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว
ส่วนจะต้องมีการทบทวนใหม่หรือไม่เนื่องจากมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์และค่อนข้างค้านสายตาสังคม นายศรชัย บอกว่า อย่างที่เน้นย้ำไปแล้ว ว่า หลักเกณฑ์ต่าง ๆผ่านข้อคำถามที่ชี้วัดทั้งหมดแล้ว ทั้งการรับรู้ภายในเจ้าหน้าที่องค์กรและภายนอกองค์กรที่ได้เข้ามามีส่วนในการประเมิน รวมไปถึงการเปิดเผยข้อมูล 3 ส่วนตามองค์ประกอบนี้ ถ้าคะแนนเป็นไปตามตัวชี้วัดทุกอย่างก็เป็นตามนั้น
ส่วนวันนี้หาก บอกว่า เมื่อตึก สตง. ถล่มลงมาก็ต้องไปดูในรายละเอียดแยกเป็นรายส่วนว่าปัญหาข้อเท็จจริงอยู่ตรงไหน มีการใช้อำนาจโดยมิชอบหรือไม่ มีการเอื้อประโยชน์ ให้หน่วยงานใดหรือ บริษัทใดหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้หลักเกณฑ์คำถาม ตาม ITA อาจจะยังไม่ครอบคลุม แต่ในขณะนี้สิ่งที่เราประเมินในเรื่อง ITA มุ่นเน้นความเป็นธรรมและความโปร่งใส และส่งเสริมเรื่องของธรรมาภิบาล