จากกรณีเมื่อวันที่ 22 ส.ค. 68 กองทัพภาคที่ 2 ตรวจพบทหารกัมพูชาคาดเป็นหน่วย BHQ ด้านทิศตะวันตกของเนิน 350 ห่างแนวเส้นปฏิบัติการเข้ามาในเขตไทยประมาณ 100 ม. ก่อนยิงขับไล่จนหลบหนีไป กระทั่งต่อมาเข้าตรวจสอบพื้นที่ พบทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณจุดที่พบทหารกัมพูชาดักซุ่ม จำนวน 1 ทุ่น นั้น
ต่อมา วันที่ 23 ส.ค. 68 จากการเข้าตรวจสอบพื้นที่โดยรอบของชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดอีกครั้ง พบการวางทุ่นระเบิด PMN-2 เพิ่มอีกจำนวน 2 ทุ่น (รวมเป็นทั้งหมด 3 ทุ่น) พร้อมลูกกระสุนเครื่องยิงลูกระเบิด 2 ลูก และตะปูเรือใบจำนวนมาก
พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เป็นที่ปรากฏชัดเจนอีกครั้งว่าฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิงจากผลการประชุม GBC ที่ผ่านมาในหลายข้อ ทั้งการยั่วยุ การรุกล้ำดินแดน และการใช้ทุ่นระเบิดในการลอบทำร้ายฝ่ายไทย
การกระทำดังกล่าวย้อนแย้งกับท่าทีที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามบิดเบือนต่อประชาคมระหว่างประเทศว่าฝ่ายไทยรุกราน ทั้งที่ความเป็นจริงและหลักฐานต่าง ๆ ที่พบ ยืนยันได้ว่ากัมพูชากระทำการรุกรานและละเมิดข้อตกลง รวมทั้งอนุสัญญาออตตาวามาโดยตลอด
กองทัพบกจะได้ส่งหลักฐานทั้งหมดให้คณะ IOT ทราบถึงพฤติกรรมดังกล่าวของฝ่ายกัมพูชา และแจ้งเตือนทุกหน่วยตามแนวชายแดนให้เฝ้าติดตามการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของฝ่ายกัมพูชาอย่างใกล้ชิด