เกาะติด! สถานการณ์ “บ้านหนองหญ้าแก้ว” ชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียด

โดย PPTV Online

เผยแพร่

เกาะติด! สถานการณ์ตึงเครียด หลังชาวกัมพูชาระดมมวลชน รื้อลวดหนาม-ทำร้ายเจ้าหน้าที่ไทยในพื้นที่ “บ้านหนองหญ้าแก้ว” ชายแดนไทย-กัมพูชา

กลายเป็นสถานการณ์ความตึงเครียดล่าสุด ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ล่าสุดชาวกัมพูชาก่อความวุ่นวายบริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ในเขตแดนไทย

โดยชาวกัมพูชาละเมิดข้อตกลงและแสดงการเป็นปรปักษ์เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย ทั้งการรื้อรั้วลวดหนาม และการขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย จนสถานการณ์บานปลายถึงขั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยต้องเริ่มใช้กระสุนยาง และแก๊สน้ำตา เพื่อสลายการชุมนุมชาวบ้าน – ทหารกัมพูชา

บ้านหนองหญ้าแก้ว สตริงเกอร์
เกาะติดสถานการณ์บ้านหนองหญ้าแก้วชายแดนไทย-กัมพูชา

โดยในพื้นที่ดังกล่าว ชาวกัมพูชามีการระดมมวลชนเข้ามารื้อรั้วลวดหนามืั้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยวางไว้ในบริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา

สถานการณ์ตึงเครียดบ้านหนองหญ้าแก้ว

ต่อเนื่องมาถึงวันนี้ เวลา 15.53 น. มีรายงานว่า ชาวกัมพูชาละเมิดข้อตกลงและแสดงการเป็นปรปักษ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยเริ่มใช้กระสุนยาง และแก๊สน้ำตา สลายการชุมนุมชาวบ้าน - ทหารกัมพูชา เนื่องจากชาวกัมพูชาได้ระดมมวลชน และทำร้ายเจ้าหน้าที่ ขณะที่กองกำลังบูรพาได้รับแจ้งจากตำรวจควบคุมฝูงชนจังหวัดสระแก้ว ว่า มีประชาชนชาวกัมพูชาจำนวน 200 คน พร้อมไม้ยาวประมาณ 3 เมตร เป็นอาวุธประจำกายเข้ามารื้อทำลายลวดหนามที่ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้วางเอาไว้ ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งเตือนชาวกัมพูชาว่าอย่าทำลายรั้วลวดหนาม แต่ก็ยังไม่เป็นผล ใช้เวลาเจรจาประมาณ 30 นาที ไม่เป็นผล

เวลา 16.20 น. ทางเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนจำเป็นจะต้องใช้มาตรการควบคุมฝูงชนจากเบาไปหาหนัก โดยการใช้แก๊สน้ำตายิงเตือนชาวกัมพูชา ที่กำลังทำลายรั้วลวดหนาม แต่ทางฝ่ายกัมพูชาก็ยังไม่ละความพยายามยังคงรื้อทำลายรั้วลวดหนาม ทางเจ้าที่ควบคุมฝูงชนจำเป็นจะต้องใช้กระสุนยาง ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยมีชาวกัมพูชาบางส่วนได้ล่าถอยออกไปเพราะถูกแก๊สน้ำตา

ด้านแหล่งข่าวจากหน่วยความมั่นคง  ให้ข้อมูลว่าหลังจากที่คณะผู้สังเกตการณ์หรือ IOT ที่ทางกัมพูชาพามาลงพื้นที่ ได้เดินทางกลับแล้ว ทางฝ่ายไทยได้ให้เจ้าหน้าที่ทหารไปจัดทำรั้วลวดหนามให้เหมือนเดิม เพื่อเป็นการป้องกันตัวเอง แต่ทางกัมพูชา ก็มีการขนคนมาสร้างความปั่นป่วน และทำร้ายเจ้าหน้าที่ ซึ่งในส่วนนี้ได้ให้ตำรวจไทย เฝ้าระวังป้องกันและดำเนินการ เบื้องต้นมีการใช้แก๊สน้ำตา และขณะนี้ยังควบคุมสถานการณ์ได้

เวลา 17.00 น. “กองทัพบก ทันกระแส” รายงานสถานการณ์ล่าสุด บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว เจ้าหน้าที่นำเครื่อง LRAD เข้าพื้นที่แล้ว เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ตรึงกำลังเขตอธิปไตยไทย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บ หัวแตก จากหินที่ชาวกัมพูชาขว้างมา

 

กัมพูชารายงานเจ็บนับสิบราย

ขณะที่ทางฝั่งกัมพูชา โอม เรียตรีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย ยืนยันว่า มีชาวกัมพูชาราว 10 คนได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกับทหารไทย

Khmer Times สื่อหลักของกัมพูชา อ้างว่า ทหารไทยพยายามติดตั้งรั้วลวดหนามในพื้นที่พิพาท พลเรือนชาวกัมพูชา รวมถึงพระสงฆ์ ทหาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้เข้าปะทะกับพวกเขา ทำให้เกิดการเผชิญหน้าอย่างตึงเครียด

ผู้ว่าราชการจังหวัดกล่าวว่า ทหารไทยตอบโต้ ซึ่งทำให้ฝ่ายกัมพูชาได้รับบาดเจ็บตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงสาหัส ผู้ได้รับบาดเจ็บประกอบด้วยชาวบ้าน พระสงฆ์ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของกัมพูชา

“ประชาชนของเราบางส่วนได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่บางส่วนได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย พวกเขากำลังได้รับการรักษา” โอม เรียตรีย์ กล่าว

 

บ้านหนองหญ้าแก้ว รายการเข้มข่าวค่ำ
จุดชุมนุม-รื้อลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ชายแดนไทย-กัมพูชา

ไทยอดทน! IOT ย้ำรอเจรจา JBC แก้ปัญหาพื้นที่พิพาท 

เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 68 พลจัตวา ซัมซุล ริซัลบินมูซา ฑูตทหารมาเลเซียประจำประเทศไทย ในฐานะหัวหน้าคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ประธานคณะ IOT ระบุว่า การลงพื้นที่มาในวันนี้นั้นไม่ได้มาตัดสินว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ของใคร ขอให้ประเทศไทยอดทนจนกว่าจะมีการประชุม JBC 

ส่วนแนวทางการแก้ปัญหาจะมีการหารือในที่ประชุม JBC ซึ่ง ตนเชื่อว่าพื้นที่ข้อพิพาทดังกล่าวจะกลับมาสงบในเร็ววัน

จะดำเนินการอย่างไร กรณีกัมพูชาดำเนินการในลักษณะนำประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ ส่งผลให้ประชาชนของคนไทยเริ่มจะทนไม่ได้และมีความกังวลว่าอาจจะเกิดการเผชิญหน้าของประชาชนนั้น ทั้งนี้ประธานคณะ IOT ขอให้คนไทยอดทนใน และตนเองชื่นชมในการที่กองทัพไทย ที่ทำหน้าที่บนความอดทนและดำรงมาตรฐานตามสากลโลก พร้อมกับปรบมือให้ทหารไทย มั่นใจว่าหลังจากนี้จะเกิดสันติภาพ

 

แก๊สน้ำตาไม่ถือเป็นอาวุธเคมี-ควบคุมเหตุวุ่นวายในเขตอธิปไตยไทย

ขณะที่เพจ "กองทัพบกทันกระแส" รีบออกมาดักขอ "พล.ท.หญิง มาลี โสเจียตา" โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ระบุว่า " กันคุณมาลีบิดเบือน ยืนยัน ไทยปฏิบัติตามหลักสากลแก๊สน้ำตาไม่ถือเป็นอาวุธเคมี และไทยใช้ควบคุมเหตุวุ่นวายในเขตอธิปไตยไทย" นอกจากนั้น เพจกองทัพบกทันกระแส ยังชี้พิกัดที่คฝ.ยิงแก๊สน้ำตา ว่า อยู่ในแผ่นดินไทย ชัดเจน
 

บ้านหนองหญ้าแก้ว FB / กองทัพบก ทันกระแส
พิกัดจุดที่มีการใช้แก๊สน้ำตา บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว อยู่ในเขตแดนไทย

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ