รศ.ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้ความเห็นกรณีที่ประเทศนอร์เวย์ สนับสนุนโครงการเก็บกู้ทุ่นระเบิดให้กับกัมพูชาจำนวน 40 ล้านบาท ทำให้เกิดคำถามว่าเพราะเหตุใดกัมพูชา ซึ่งละเมิดอนุสัญญาออตตาวา วางทุ่นระเบิดใหม่ที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ถึงได้รับการสนับสนุน ว่า
ต้องไปดูเงื่อนไขที่นอร์เวย์สนับสนุนว่า ให้เพื่อเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาหรือไม่ หรือให้เพื่อใช้สำหรับเก็บกู้ทุ่นระเบิดของเก่า
ซึ่งถ้าเป็นแบบหลัง ก็ไม่ค่อยยุติธรรมกับไทย และทหารไทยที่เสียขาไปหลายนาย สะท้อนให้เห็นว่า แม้ที่ผ่านมากระทรวงการต่างประเทศในรัฐบาลชุดก่อน จะเชิญทูตไปดูสถานที่จริง และพยายามสืบหาข้อเท็จจริง แต่ไม่ได้มีท่าที และเป้าหมายชัดเจนให้นานาชาติร่วมกดดันกัมพูชาที่ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา
ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว ประเทศที่เป็นสมาชิกของอนุสัญญาออตตาวา ควรจะต้องประณามกัมพูชา หรือ ตักเตือนทางการทูต แต่กลับไม่มีเลย แสดงให้เห็นว่าอนุสัญญาฉบับนี้ ไม่ได้มีบทลงโทษสำหรับผู้ที่ละเมิด ถึงได้กล้าละเมิดซ้ำ และแสดงบทบาทเหยื่อให้ดูน่าสงสาร
รศ.ดุลยภาค ยังมองว่า ไทยกำลังต่อสู้อยู่กับประเทศที่มีชั้นเชิงทางการทูต ซึ่งพอไทยรับบทเป็นสุภาพบุรุษ จึงทำให้ไทยไม่สามารถระดมทรัพยากรทางการทูตเพื่อเป้าหมายสุงสุด คือการให้ประเทศต่าง ๆ กดดันกัมพูชา แต่วันนี้มีเพียงแค่การทำให้นานาชาติเห็นใจ เพราะหากตั้งเป้าหมายไว้สูง จะต้องเห็นภาพการระดมเทคนิคการเจรจาทางการทูตเดินสายคุยกับนานาชาติ เพื่อโอบกัมพูชาให้จนมุมให้ได้
โดยเฉพาะเมื่อวันนี้กัมพูชาเป็น "รัฐอันธพาล ในคราบเหยื่อ" ที่นำเสนอตัวเองกับนานาชาติว่า เป็นประเทศที่น่าสงสาร มีสงครามกลางเมือง มีทุ่นระเบิดจำนวนมาก ต้องขอความช่วยเหลือ ขณะที่ไทยก็รังแก จึงถือเป็นคำถามสำคัญว่า นโยบายต่างประเทศของไทยจะสามารถกระชากหน้ากากของกัมพูชาได้หรือไม่
พร้อมย้ำว่า ถ้าหากไทยกระชากหน้ากากของกัมพูชาไม่ได้ ก็ไม่มีวันชนะกัมพูชา เห็นได้จากอุทาหรณ์กรณีประเทศนอร์เวย์ให้เงินเก็บกู้ทุ่นระเบิดกับกัมพูชาที่ทำผิดอนุสัญญา แต่ก็ยังได้เงิน
อีกประเด็นที่ รศ.ดุลยภาค มีความเป็นห่วงคือ กรณีชาวกัมพูชาที่รุกล้ำเข้ามาในไทยบริเวณบ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว ซึ่งมีเส้นตายให้ต้องย้ายออกภายในวันที่ 10 ตุลาคมนั้น เชื่อว่า กัมพูชาคงไม่ปฏิบัติตาม และเรื่องนี้ก็เป็นความผิดพลาดของไทยที่ปล่อยปะละเลยให้ชาวกัมพูชาเข้ามาอาศัย และแสดงกรรมสิทธิ์อ้างเป็นเจ้าของ
เรื่องนี้ ไทยมีความชอบธรรมในการผลักดันชาวกัมพูชาออกไป แต่วันนี้ไทยเดิมเกมผิด โดยเฉพาะการใช้แผนอพยพไปต่อรอง ทั้งที่จุดที่มีการรุกล้ำเข้ามาเป็นที่ทราบดีว่าเป็นพื้นที่ของไทย จึงต้องเดินเกมให้ชัด หากเป็นเรื่องเส้นเขตแดนบริเวณหมุดที่ยังตกลงกันไม่ได้ ก็ไปคุยกันในวง JBC แต่เรื่องที่รุกล้ำเข้ามาในอธิปไตยไทยชัดเจน ก็ต้องบังคับใช้กฎหมายอาญาเท่านั้น
ทั้งนี้ หากเกินเส้นตายที่จะต้องย้ายออกแล้วกัมพูชาไม่ทำตาม ในขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีออกมาบอกว่า ให้อำนาจกับกองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วไปแล้ว รศ.ดุลยภาค มองว่า ต้องใช้กลไกของสภาความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานโดยตำแหน่ง ในการหาแนวทางดำเนินการ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้กลั่นกรอง และชี้ขาด
- คอนเทนต์พิเศษ
สำหรับคุณ - TOP สังคม
- วิดีโอยอดนิยม
