วันที่ 16 ต.ค.2568 เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ (คปท.) ประมาณ 60 คน รวมตัวกันบริเวณด้านหน้าสถานทูตราชอาณาจักรกัมพูชา ประจำราชอาณาจักรไทย ในกรุงเทพมหานคร เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ กดดันให้รัฐบาลกัมพูชา โดยสมเด็จ ฮุนเซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา นำประชาชนกัมพูชา ออกจากแผ่นดินไทย ในพื้นที่บ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว
โดยบรรยากาศด้านหน้าสถานทูตกัมพูชา มีการวางกำลังตำรวจหลายสิบนาย ดูแลความสงบเรียบร้อยอย่างเข้มงวด ตำรวจยืนเรียงแถวหน้ากระดานประชิดกำแพงสถานทูต พร้อมแผงเหล็กกั้นเป็นแนวยาวอีกชั้นหนึ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้มวลชนข้ามฝั่งมาทำกิจกรรมด้านหน้าสถานทูต ที่อนุญาตเฉพาะฝั่งตรงข้ามสถานทูตเท่านั้น โดยฝั่งตรงข้ามสถานทูต (จุดชุมนุม) มีตำรวจหลายนายดูแลความเรียบร้อยเช่นกัน
ทั้งนี้นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. กล่าว่า วันนี้มาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ถึงนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ให้รีบถอนคนกัมพูชา ออกจากแผ่นดินไทย เพราะขณะนี้ประชาชนทั้ง 2 ประเทศทะเลาะกันเอง กลายเป็นความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับประชาชน และฝากถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้มีความเข้มแข็งและแสดงท่าทีที่เด็ดขาดในการกดดันผู้นำกัมพูชา และแนะนำให้นายกรัฐมนตรี ทำหนังสือถึงผู้นำกัมพูชาในลักษณะเด็ดขาด เพราะหากไม่เด็ดขาดจะทำให้ปัญหายืดเยื้อ
นายพิชิต กล่าวอีกว่า ในส่วนทหารไทยปฏิบัติตามยุทธวิธีทางการทหารต่อไป ซึ่งในวันที่ 20 ตุลาคมนี้จะเดินทางไปชุมนุมกดดันรัฐบาลไทยที่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้ทำหนังสือเรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชา นำประชาชนชาวกัมพูชา ออกจากพื้นที่บุกรุก
เมื่อถามว่ามองอย่างไรกรณีเกาหลีใต้รุกแก้ปัญหาสแกมเมอร์ และสหรัฐฯ มีการยึดทรัพย์กัมพูชาจากการทำความผิด ขณะที่ทางการไทยไม่ทำอะไร นายพิชิต กล่าวว่า ทางการไทยช้าไปมาก ในขณะที่ประเทศอื่นที่ขัดแย้งกับกัมพูชา ปฎิบัตอย่างเข้มแข็ง ไม่รู้เกรงใจอะไรหรือเป็นไปตามข่าวลือว่ามีนักการเมืองมีผลประโยชน์แอบแฝงอยู่ในกัมพูชา
ส่วนกรณีที่ น.ส.อังคณา นีละไพจิตร สว. ที่ล่าสุด UN ออกมาปกป้อง หลังถูกขู่ฆ่าหรือถูกทำร้ายนั้น นายพิชิต กล่าวว่า คนไทยทุกคนมีสิทธิได้รับการปกป้อง และมีความห่วงใยต่อ สว.อังคณา พร้อมกับไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงเพราะการแสดงความคิดเห็นถือเป็นสิทธิ์ พร้อมขอร้องให้คนไทยพุ่งเป้าไปที่การปกป้องอธิปไตยไทยมากกว่าการทะเลาะกันเอง