แม้ประเทศไทยและประเทศกัมพูชา ร่วมลงนามปฏิญญาสันติภาพที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยมีทั้งสหรัฐอเมริกา และมาเลเซียร่วมเป็นสักขีพยาน ก็ยังคงเกิดคำถามตามมาว่า ไทยจะสามารถไว้ใจกัมพูชาได้มากน้อยเพียงใด เนื่องจากหลายคนมีความกังวลในความไม่จริงใจของกัมพูชา รวมถึงกัมพูชาจะมีกลเกมอย่างไรมาบิดพลิ้วข้อตกลงสันติภาพ อันอาจนำไปสู่การเสียเปรียบของประเทศไทย
นายอนาลโย กอสกุล เจ้าของเพจ thaiarmedforce.com และที่ปรึกษากรรมาธิการทหาร สภาผู้แทนราษฎร และ นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรอง ผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ร่วมวิเคราะห์ประเด็นดังกล่าวในรายการคุยข้ามช็อต PPTV HD36 ไว้อย่างน่าสนใจ
ไทยยังไม่เสีย "ปราสาทตาควาย" กัมพูชายึดครองทางพฤตินัย
นายอนาลโย กล่าวว่า ปัจจุบันใครเป็นเจ้าของ "ปราสาทตาควาย" ยังไม่รู้ เนื่องจากยังกำหนดเขตแดนไม่จบ ทำให้เป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ ต่างฝ่ายต่างอ้างเป็นพื้นที่ตนเอง แต่โดยพฤตินัยขณะนี้ กัมพูชายึดครองปราสาทตาควาย เป็นข้อเท็จจริงที่ชัดเจน เนื่องจากสามารถยึดครองได้ทั้งเนิน 350 ข้าง ๆ รวมถึงตัวปราสาทด้านล่าง รวมถึงข้อตกลงหยุดยิงนั้นเกิดขึ้นก่อนที่เราจะสามารถเข้าไปยึดพื้นที่ดังกล่าวคืนได้
ทั้งนี้ แม้จะเซ็นปฏิญญาสันติภาพ ที่มีการถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่เกี่ยวกับการถอนกำลังพล ทหารของสองฝ่ายอยู่ที่ไหนอยู่ที่นั่น รักษาพื้นที่อยู่ ไม่ว่าจะเป็นภูมะเขือ ปราสาทตาเมือนธม ช่องอานม้า ทหารทั้งสองฝ่ายก็ยังอยู่
นายอนาลโย ยืนยันว่า ขณะนี้เราไม่ได้เสียปราสาทตาควาย เพียงแต่ในทางพฤตินัย กัมพูชายึดครองอยู่ ทำให้เราไม่สามารถเข้าไปได้
ทำไม? กัมพูชาอยากได้ "ปราสาทตาควาย"
นายนันทิวัฒน์ กล่าวว่า กัมพูชา พยายามเคลมทุกปราสาทที่เราเรียกว่า “ปราสาทขอม” ว่าเป็นของเขา โดยอ้างว่าเป็นความพยายามในการสืบทอดมรดกของบรรพบุรุษของเขา ซึ่งไทยพยายามบอกตลอดมาว่าไม่ใช่ ไม่เช่นนั้นกัมพูชาต้องมาเอาปราสาทขอมทุกแห่งในไทย ตนมองว่าการที่กัมพูชาอ้างสิทธิ์เช่นนี้นั้นไม่ชอบธรรม
"ปราสาทตาควาย" เป็นของไทย ถ้าหยุดยิง 28 ก.ค. เที่ยง
นายนันทิวัฒน์ กล่าวว่า ปราสาทตาควายเมื่อช่วงก่อนการปะทะ ขณะที่ยังมีกำลังทหารวางอยู่บริเวณรอบปราสาท ไทยพลาดนิดเดียวตอนที่ฝ่ายการเมืองไปลงนามหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ซึ่งถ้าเราหยุดยิงตามที่ทหารต้องการ คือ เที่ยงวันของวันที่ 28 กรกฎาคม ไทยจะได้ปราสาทตาควาย เพราะเราคุมพื้นที่ได้เรียบร้อยแล้ว
ทว่าพอตกกลางคืน ฝั่งกัมพูชาลงมาจากเนิน 350 และยิงฝั่งไทย รวมถึงไทยเองก็ห่วงตัวปราสาทว่าได้รับความกระทบกระเทือน ได้รับความเสียหาย ประหนึ่ง “เสียดายสมบัติ” ซึ่งนี่เป็นจุดอ่อนของเรา เพราะเรารู้สึกเป็นเจ้าของ จึงต้องยอมถอย นอกจากจะไม่ทำให้ปราสาทเสียหายแล้ว ผู้นำทหารยังเชื่อว่าวันหนึ่งเราจะเอาคืนได้เมื่อเรามีความพร้อมมากกว่านี้
นายนันทิวัฒน์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้น เป็นเพราะรัฐบาลไม่ฟังทหาร ตนไม่รู้ว่าการสื่อสารระหว่างผู้นำทหารกับรัฐบาลนั้นสื่อสารตรงกันหรือไม่
"ปราสาทตาควาย" อยากได้คืนทำอย่างไร?
นายอนาลโย กล่าวว่า อย่างแรกที่ต้องทำคือ ยึดเนิน 350 ให้ได้ จริง ๆ ภารกิจทางทหารตอนนั้นทั้ง 5 วัน ควรยึดเนิน 350 ให้ได้ก่อน เพราะถ้าเรายึดเนิน 350 ไม่ได้ แล้วยึดตัวปราสาทได้ สุดท้ายเราจะอยู่ไม่ได้ ก็ต้องออกอยู่ดี เพราะฉะนั้นต้องยึดจุดสูงข่ม อีกทั้งตัวสันปันน้ำซึ่งเป็นตัวกำหนดเขตแดนฝั่งไทยก็วิ่งบนเนินพอดี
ดังนั้น ถ้าหากจะเอาปราสาทตาควายคืนมา ต้องยึดเนิน 350 ให้ได้ ทว่าไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ เนื่องจากมีการวางทุ่นระเบิดอยู่ เข้าตีไม่ได้ และหากจะยึดเนิน 350 ให้ได้ตอนนี้ ปัญหาคือ มีข้อตกลงหยุดยิงกันอยู่
เพราะฉะนั้นจะมีอยู่ 2 อย่าง ถ้าจะดำเนินการตามนี้ คือ 1) ต้องรบกันใหม่ 2) คือต้องรอปักปันเขตแดนกันให้จบก่อน ถ้าหากจะรบกันตอนนี้ เงื่อนไขทุกอย่างนั้นยากมากที่จะเกิดสงครามได้ในเร็ว ๆ นี้ หรืออีก 1-2 ปี อาจเกิดขึ้นได้หรือไม่ ก็ไม่รู้
นายอนาลโย มองว่า หากย้อนกลับไปจะเห็นว่า ไทยและกัมพูชามีการปะทะกันทุก ๆ 10-15 ปี หรืออาจจะปะทะกันก่อนก็ได้ หรืออาจจะปะทะอีกทีปี 2580 ก็ได้
ไม่ง่าย! "ปราสาทตาควาย" คุยกัมพูชาปักปันเขตแดน
นายนันทิวัฒน์ กล่าวว่า การปักปันนั้นไม่ง่าย เพราะวันนี้ยึดติดกันที่แผนที่ 1 : 200,000 กับแผนที่ 1 : 50,000 ตรงปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม หรือทุกปราสาทตามแนวเทือกพนมดงรัก ซึ่งในสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ชัดเจนว่าให้แบ่งตามแนวสันปันน้ำ และมีปักปันหลักเขตแดนอย่างชัดเจนตั้งแต่ปี 1907 หลักที่ 1 ช่องสะงำ จนถึงหลักที่ 73 แหลมสารพัดพิษ
ที่สำคัญคือ แม้ว่าเราจะใช้ LIDAR เพื่อกำหนดเขตแดน ก็มีคำถามว่ากฎหมายภายในของไทยรองรับไหม รัฐธรรมนูญของเรารองรับไหม ซึ่งตนเชื่อว่าไม่มี และถ้าเรารับได้ ฝั่งนั้นจะรับได้หรือไม่หากเราใช้ 1 : 50,000 เขาก็ยอมไม่ได้เพราะเขาก็จะอยู่ไม่ได้
นายนันทิวัฒน์ มองว่า สิ่งนี้คือจุดตายของผู้นำเผด็จการ เขาอยู่ได้ด้วยสิ่งเหล่านี้เพื่อหล่อเลี้ยงจิตใจคนบ้านเขา เพราะฉะนั้นเมื่อเขาเสียให้เราตนว่าเขาอยู่ไม่ได้
วันนี้ กัมพูชาจึงได้บอกว่าลงนามปฏิญญากัวลาลัมเปอร์แล้ว ทำไมไทยไม่เปิดด่าน ทำไมไทยไม่ทำนู่นทำนี่ แต่เขามื่ถามตัวเองเลยว่าเขาต้องทำอะไรให้เราบ้าง ซึ่ง 4 ข้อที่เราขอไปนั้นธรรมดามาก ต้องดูว่า คนไทยตายจะทำอย่างไร บ้านเรือนเราเสียหาย โรงพยาบาลเราเสียหายจะว่าอย่างไร ต้องมีการเรียกร้อง