พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความรู้สึกของประชาชนกรณีปราสาทตาควาย โดยยืนยันว่าปราสาทตาควายยังเป็นของไทยอยู่ ถ้าไม่สามารถเคลียร์เรื่องปราสาทตาควายได้จะไม่คุยเรื่องอื่นกับกัมพูชา รวมถึงกรณีปล่อยเชลยศึกทั้ง 18 คน และได้พูดคุยกับฝ่ายกัมพูชาไปแล้วว่า ทำผิดอนุสัญญาเจนีวา เรื่องการใช้โบราณสถานเป็นฐานที่มั่นทางทหาร รวมไปถึงการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลล้อมรอบปราสาทที่ผิดอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งเราไม่ยอมรับว่าเขายึดได้
ส่วนในคำประกาศความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ที่มีการลงนามและทางกัมพูชาจะต้องยึดหลัก 4 ข้อ รวมถึงเรื่องปราสาทตาควาย เมื่อถามว่า หากทางกัมพูชายอมถอนกำลังออกจากปราสาทตาควาย จึงจะพูดคุยใช่หรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ยังไม่หมด ต้องเคลียร์หมดทุกเรื่องให้กลับสู่สภาพปกติ ส่วนปราสาทคนา ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชายแดน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์นั้น จะต้องไปคุยกันอีกครั้ง แต่เรื่องปราสาทตาควายได้ยืนยันกับทางกัมพูชาแล้วว่าไม่จบแน่นอน
เมื่อถามว่า ไทยจะไปร้ององค์กรระหว่างประเทศว่ากัมพูชาทำผิดอนุสัญญาเจนีวา และออตตาวาหรือไม่? พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า แน่นอนอะไรที่เป็นเขตแผ่นดินของไทยเราต้องเอาคืนมาให้หมด
ส่วนกรณีมีกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์จะรวมตัวจัดกิจกรรมทวงคืนปราสาทตาควาย จะเป็นการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ให้เลวร้ายขึ้นหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล บอกว่า ขอความเห็นใจ เพราะปัญหาเยอะไปหมด สั่งสมมานาน ไม่ใช่เพิ่งเกิดปีนี้ รัฐบาลหรือกองทัพก็พยายามแก้ปัญหาไปทีละเรื่อง ก็ต้องขอความร่วมมือ เพราะในพื้นที่ยังคงมีทุ่นระเบิด ซึ่งบอกกองทัพไปแล้ว ว่าต้องไม่มีมวลชนในพื้นที่ เข้าไปแล้วได้รับอันตราย
ส่วนกรณีประชาชนในพื้นที่เข้าใจว่าไทยเสียปราสาทตาควายไปแล้ว และไม่พอใจรัฐบาลอย่างมาก พล.อ.ณัฐพล ยืนยันด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า กองทัพจะไม่ยอม ไม่จบแน่นอน ถ้ายังไม่ได้ปราสาทตาควายคืน
ส่วนที่โฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงยอมรับว่า เสียปราสาทตาควายตั้งแต่คืนวันที่ 28 ก.ค. และไม่สามารถไปยิงเพื่อยึดคืนได้ ต้องใช้กลไกการเจรจา ยิ่งกลายเป็นการตอกย้ำประชาชน พล.อ.ณัฐพล ได้ยกตัวอย่างอธิบายว่า คำว่าเสีย เช่น ภูมะเขือ ที่เรายึดได้ เราทำถูกต้องทุกอย่าง แต่ปราสาทตาควายกัมพูชาทำผิดอนุสัญญาเจนีวา จึงต้องมีการต่อสู้ทางกฎหมาย