ยังคงเป็นเรื่องร้อนสำหรับประเด็นโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล ล่าสุด นายธนเดช เพ็งสุข สส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน ได้ออกมา เปิดรายชื่อ 900 องค์กร รับโควตาสลากฯ เพื่อให้ได้ร่วมตรวจสอบว่าองค์กรไหนมีพิรุธเปิดขึ้นมาเป็นองค์กรม้า รับโควตาสลากฯขายต่อให้กลุ่มทุนหรือไม่
โดยนายธนเดช บอกว่า จากข้อมูลหลักฐานที่ตัวเองมีอยู่ เชื่อได้ว่ามีการเอื้อประโยชน์ให้กับภาคเอกชนในการเข้าไปประมูลโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวนมาก รวมถึงประมูลได้ราคาค่อนข้างต่ำมากกว่าที่ควรจะเป็น
นายธนเดช อธิบายว่า สลากกินแบ่งรัฐบาลมีต้นทุนอยู่ที่ใบละ 68.8 บาท ซึ่งกองสลากฯ จะมีค่าดำเนินการให้กับองค์กร มูลนิธิ และสมาคมต่างๆ ที่ได้รับโควตาอยู่ที่ 2% หรือ 1.6 บาทต่อใบ ทำให้ราคาของสลากที่ออกมาจากองค์กรต่างๆ อยู่ที่ใบละ 70.40 บาท แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ การบริหารโควตาสลากฯ ขององค์กรต่างๆ นั้น ส่อไปในทางที่ไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ ที่ตั้งใจจะช่วยเหลือสมาชิกในองค์กร เพราะพบว่ามีการนำชื่อเข้ามาสวมสิทธิ์สมาชิก แล้วรวบโควตาไปขายต่อ เหมือนเป็นการแปรสภาพองค์กร มูลนิธิ และสมาคม เป็นยี่ปั๊วขนาดใหญ่นำสลากไปขายต่อให้เอกชนในราคาต่ำ เพื่อนำไปค้ากำไรสูงขึ้น ซึ่งหากไปถามพ่อค้าแม่ค้าที่ขายสลากตามท้องตลาดก็จะเห็นได้ชัดว่าราคาสลากที่รับมาขายค่อนข้างสูงตั้งแต่ต้น นั่นหมายความว่าก่อนที่จะมาถึงผู้ค้ารายย่อย มีการประมูล ผ่านยี่ปั๊วซาปั๊ว กอบโกยรายได้มาแล้วหลายทอด
“ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ การบริหารโควตาสลาก ของมูลนิธิและองค์กรต่างๆ ที่มีอยู่ทั้งประเทศส่อไปในทางที่อาจจะไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ของกองสลากฯที่มีความตั้งใจจะช่วยเหลือองค์กรมูลนิธิหรือสมาคมต่างๆ เราพบว่าบางมูลนิธิบางองค์กรและบางสมาคม เกิดการเอาชื่อเข้ามาสวมสิทธิ์รวบโควตาไปขาย แปรสภาพสมาคมมูลนิธิองค์กรเป็นยี่ปั๊วขนาดใหญ่ เอาไปขายต่อในราคาที่ต่ำ เพื่อให้เอกชนมีผลกำไรที่ค่อนข้างสูง เราจึงตั้งประเด็นว่านี่อาจเป็นพฤติการณ์ที่ส่อไปในทางเอื้อประโยชน์”
นายธนเดช บอกอีกว่า ตอนนี้มีประมาณ 900 องค์กรที่ได้รับโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล แต่ละที่ก็จะได้รับโควตาสลากแตกต่างกันไป ซึ่งจากข้อมูลบางองค์กรก็ไม่ได้มีสมาชิกจริงๆ ตั้งสมาคมขึ้นมาเพื่อหาประโยชน์โดยเฉพาะ เป็นลักษณะของ “สมาคมม้า” โดยหลังจากนี้ ตัวเองจะออกมาเผยแพร่รายชื่อองค์กร สมาคม และมูลนิธิทั้ง 900 แห่ง เพื่อให้ประชาชนร่วมตรวจสอบไปด้วยกันว่าสมาคมเหล่านี้ดำเนินงานอยู่จริงหรือไม่
นายธนเดช บอกว่า ตอนนี้ไม่อยากปรักปรำองค์กรใดว่ามีการทุจริตโควตาสลาก แค่กำลังตั้งคำถามถึงโครงสร้างการบริหารจัดการโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล และความโปร่งใสของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลของประเทศไทย ว่ามีความโปร่งใสซื่อตรงแค่ไหนหรือเป็นแค่แหล่งประโยชน์ของทุนเทาที่เข้ามาหารายได้ในประเทศ
ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบข้อมูล อย่างโควตาหวยองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ที่ได้รับโควตาสลากเป็นอันดับสามของประเทศ คือ 10,988 เล่มต่องวด รวมปีนึงประมาณ 26 ล้านใบ ได้ถูกบริหารจัดการภายใต้สององค์กรคือ สำนักงานจัดจำหน่ายสลากกินแบ่งและบุหรี่กว่า 6,000 เล่มต่องวด / สมาคมทหารผ่านศึกผู้พิการกว่า 4,000 เล่มต่องวด แต่พบว่า มีการรวบโควตาไปขายให้กับภาคเอกชน แล้วเอาเงินปันผลให้กับทหารผ่านศึกเป็นรายปี ซึ่งถ้าไปดูเงินปันผลก็จะพบว่าเป็นยอดเงินที่ต่ำกว่าที่ควรจะได้รับจริงๆ อย่าง ทหารผ่านศึกสิทธิบัตรชั้น1 ที่ไปรบได้เหรียญกล้าหาญ ประมาณ 2,898 นาย ได้เงินปีละ 13,700 บาท / ครอบครัวทหารผ่านศึกที่เสียชีวิตหรือพิการ ได้อีกประมาณ 3,000 บาทต่อปี / ครอบครัวทหารผ่านศึกที่พิการหรือเสียชีวิตภายหลัง ได้ประมาณ 2,500บาทต่อปี ขณะที่ครอบครัวทหารผ่านศึกชั้นอื่นๆ ที่พิการหรือทุพพลภาพ ได้ประมาณ 2,000บาทต่อปี
“เราพบว่าทหารผ่านศึกมีจำนวนสลากต่อปี 26 ล้านใบ ผมก็เอามาคิดง่ายง่ายเลยคือเฉลี่ยแล้วสลากหนึ่งใบจะปันผลให้กับทหารผ่านศึก อยู่ที่ 2.10 บาท ตามสภาพความเป็นจริงแล้วผมว่ามันไม่ใช่เราไม่เคยเห็นราคาสลากที่ไหนถูกขนาดนี้ ผมมองว่าทหารผ่านศึกควรที่จะได้รับผลประโยชน์มากกว่านี้จึงเป็นเหตุให้ ต้องตั้งคำถามว่าใครกันที่มาประมูลโควตาสลากในราคาที่ต่ำได้ขนาดนี้มันเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนหรือไม่”
นายธนเดช บอกว่า ตัวเองคาดหวังว่า รัฐบาลและกระทรวงกลาโหมจะจริงใจในการตรวจสอบประเด็นเรื่องโควตาสลากฯ ส่วนจะสาวไปถึงต้นตอขนาดไหนก็คงต้องดูที่พยานหลักฐาน ส่วนตัวมองว่า ตัวใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ไม่ได้มีจำนวนมาก เพราะ ธุรกิจสลากฯใช้เงินมหาศาล โดยเบื้องต้นเมื่อวานนี้ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ออกมาให้ข่าวว่าอยากพูดคุยกับตัวเองเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา วันนี้จึงส่งตัวแทนไปยื่นหนังสือขอเข้าพบเรียบร้อยแล้ว รอแค่หนังสือตอบกลับว่าจะให้เข้าพบเมื่อไหร่
นายธนเดช บอกอีกว่า นอกจากองค์การทหารผ่านศึก เมื่อวานนี้ยังมีตัวแทนนักกีฬาคนตาบอด ยื่นร้องเรียนต่อ DSI เรื่องโควตาสลาก จากการตรวจสอบสมาคมนี้ ก็มีมูลเหมือนกันว่า ได้ตั้งสมาชิกขึ้นมาเพื่อรับโควตาสลากอย่างผิดวัตถุประสงค์ หลังจากนี้ก็ต้องตรวจสอบต่อไปด้วยว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพราะจากที่ทราบมากลุ่มคนเหล่านี้ก็เคยออกมาร้องเรียนเรื่องสลากที่ได้รับโควตาอย่างไม่เป็นธรรมมาตั้งนานแล้ว
นอกจากนั้นล่าสุด นายธนเดช ได้เปิดเผยรายชื่อ 900 องค์กร ที่ได้รับโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล พร้อมระบุตอนหนึ่งว่า “ผมขอไม่เจาะจง แต่ตั้งข้อสังเกตว่า บางสมาคม อาจเป็นเพียงสมาคมม้า ที่ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อขอรับผลประโยชน์จากโควตาสลาก โดยไม่ได้มีภารกิจสาธารณประโยชน์ตามที่ควรจะเป็น ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงก็หมายความว่า กลุ่มทุนเทา ได้แทรกซึมเข้ามาครอบคลุมทุกมิติ แปลสภาพเป็นนายหน้ายี่ปั๊วสมาคม และระบบโควตาสลากที่ควรจะช่วยคนตัวเล็กก็กลับกลายเป็นช่องทางหากินของคนกลุ่มทุนเทาใหญ่ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กครับ เพราะมันคือการกินรวบเชิงโครงสร้าง ที่บิดเบือนเจตนารมณ์ของสลากกินแบ่งรัฐบาลอย่างสิ้นเชิง”