แนวโน้มค่าเงินบาทมีแนวโน้มเคลื่อนไหว sideways ต่อในวันนี้ จนกว่าจะรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ โดยมีแนวรับสำคัญยังคงเป็นโซน 33.30 บาทต่อดอลลาร์ และแนวต้านสำคัญจะอยู่ 33.50-33.60 บาทต่อดอลลาร์
ทั้งนี้ บรรยากาศในตลาดการเงินสหรัฐฯ กลับมาอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยงอีกครั้ง เนื่องจากถ้อยแถลงของประธานเฟดในคืนก่อนหน้าไม่ได้มีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของเฟดที่ชัดเจน
ราคาทองวันนี้ ปรับ 5 ครั้ง ปิดเท่าวันก่อน ต่างประเทศ-ค่าบาทแทบไม่ขยับ
ปี 66 ต่างชาติลุยซื้อหุ้นไทย 1.1 หมื่นล้าน จับตาบาทแข็งเร็วสุดในอาเซียน
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่าเนื้อหาส่วนใหญ่ของนายเจอโรม พาวเวล์ ประธานพูดถึงความเป็นอิสระจากการเมืองของธนาคารกลาง ทำให้นักลงทุนในตลาดกล้าที่จะกลับเข้ามาซื้อหุ้นในกลุ่มเทคฯ และหุ้นสไตล์ Growth เพื่อรอลุ้นรายงานเงินเฟ้อ CPI ในวันพฤหัสฯ (ตลาดประเมินว่าเงินเฟ้อจะชะลอลงต่อเนื่อง) หนุนให้ ดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ปรับตัวขึ้น +1.01% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดตลาด +0.70%
ทางด้านตลาดบอนด์ บอนด์ยีลด์ระยะยาวโดยรวมปรับตัวสูงขึ้นตามภาพตลาดการเงินเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น รวมถึงมุมมองของเจ้าหน้าที่ ECB ที่ยังคงออกมาสนับสนุนการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในส่วนถ้อยแถลงของประธานเฟดจะไม่มีการกล่าวถึงแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายก็ตาม โดยล่าสุดบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องสู่ระดับ 3.60%
"เราคงมุมมองเดิมว่า ผู้เล่นในตลาดจะรอไฮไลท์สำคัญอย่าง รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ทำให้ในระยะสั้น บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ อาจแกว่งตัว sideways ใกล้ระดับ 3.50% จนกว่าจะรับรู้รายงานข้อมูลดังกล่าว"
ในฝั่งตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์โดยรวมเคลื่อนไหวในกรอบ sideways โดยล่าสุด ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) แกว่งตัวใกล้ระดับ 103.3 จุด ซึ่งเราประเมินว่า เงินดอลลาร์จะแกว่งตัว sideways หรืออาจอ่อนค่าลงได้เล็กน้อย หากตลาดเปิดรับความเสี่ยงต่อเนื่อง เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างรอประเมินทิศทางดอกเบี้ยนโยบายเฟด จากรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ก่อนที่จะปรับสถานะถือครองเงินดอลลาร์ที่ชัดเจนอีกครั้ง
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) มองว่าเงินบาทคงอยู่ในแนวโน้มแข็งค่าแต่จะเริ่มชะลอลง โดยตลาดยังคงให้ความสนใจไปกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการเดินทางระหว่างประเทศหลังจีนเปิดประเทศเมื่อวันที่ 8 ม.ค. ท่ามกลางความคาดหวังว่าเฟดจะลดการใช้นโยบายการเงินตึงตัว/กระตุ้นให้เม็ดเงินหันเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น แม้ว่าถ้อยแถลงนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณใด ๆ ที่บ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งล่าสุดเมื่อคืนนี้ก็ตาม
ทั้งนี้เงินบาทยังได้ปัจจัยบวกจากการไหลเข้าของเงินทุนจากต่างชาติ โดยเมื่อวานนี้ต่างชาติยังคงซื้อพันธบัตรและหุ้นไทยสุทธิอีกกว่า 7,976 ล้านบาท และ 4,299 ล้านบาทตามลำดับ
อย่างไรก็ตามในวันนี้ค่าเงินบาทอาจอ่อนค่าได้บ้างจากแรงซื้อดอลลาร์จากผู้นำเข้า รวมถึงการขายทำกำไรระยะสั้นในทองคำหลังขึ้นไปทดสอบบริเวณ 1,880 เช้านี้ และจะผันผวนในกรอบที่กว้างขึ้น โดยมีแนวรับ/แนวต้านระยะสั้นที่ 33.30/33.70 บาทต่อดอลลาร์
ติดตามตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ในวันที่ 12 มกราคม ซึ่งหากตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ออกมาใกล้เคียงกับที่ตลาดประเมินไว้ เงินดอลลาร์อาจอยู่ในโซนอ่อนค่าต่อเนื่อง โดยตลาดสัญญาล่วงหน้าสะท้อนการคาดการณ์ว่ามีโอกาส 73% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ.
แนะนำผู้ส่งออกควรขายเงินตราต่างประเทศเพื่อปิดความเสี่ยงที่ระดับ 33.70 บาท/ดอลลาร์
