ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 157 ราย เสียชีวิต 1 ราย
WHO แถลงผลสืบต้นตอโควิด-19 อาจมาจาก “เอเชียอาคเนย์” บ้านเรา?
คืนที่ผ่านมา (9 ก.พ.2564) เจ้าหน้าที่ควบคุมพื้นที่พักพิงผู้ลี้ภัยจากการสู้รบบ้านแม่หละ ตำบลแม่หละ อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ภายในศูนย์พักพิงผู้ลี้ภัยจากสงครามบ้านแม่หละ โดยในที่เกิดเหตุ เพลิงได้ลุกไหม้จากบ้านผู้ลี้ภัยบริเวณกลางศูนย์อพยพ โดยเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว และขยายออกไปอีกกว่า 100 หลัง ขณะผู้ลี้ภัยหลายร้อยคนช่วยกันใช้ถังตักน้ำดับไฟ แต่ไม่สามารถสกัดไฟได้ ขณะที่กำลังรดน้ำดับไฟนั้น ผู้ลี้ภัยพยายามโทรศัพท์ เพื่อขอให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องส่งรถดับเพลิงไปเสริมเพื่อสกัดไฟที่กำลังลุกลาม เบื้องต้นไม่พบผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต
ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ใช้เวลานาน ถึง 3 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ โดยต้องระดมกำลังหน่วยดับเพลิงทั้งองค์การบริหารส่วนตำบลแม่หละและพื้นที่ใกล้เคียงมาช่วยกันระงับเหตุ ข้อสังเกตจากผู้ที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่พบว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วและเกิดความเสียหายอย่างมาก ในศูนย์พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยจากการสู้รบจากเมียนมา เป็นเพราะว่า บ้านพักอาศัยทุกหลังคาเรือนทำจากวัสดุธรรมชาติตามเงื่อนไขของศูนย์พักพิง ที่กำหนดว่า สิ่งปลูกสร้างต้องมาจากวัสดุธรรมชาติ ที่หาได้จากพื้นที่ เท่านั้น ในบริเวณนั้น จึงมีแต่บ้านที่ทำจาก ใบตองตึง ซึ่งเป็นใบไม้แห้ง และไม้ไผ่เท่านั้น จึงทำให้มีโอกาสติดไฟได้ง่ายโดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง มักมีรายงานข่าวลักษณะนี้เกิดขึ้นทุกปี
สำหรับพื้นที่พักพิงผู้ลี้ภัยจากการสู้รบบ้านแม่หละ มีผู้ลี้ภัยจำนวน กว่า 37,000 คน ตั้งแต่ ปี 2520-2530 และเป็นพื้นที่พักพิงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ผู้อพยพส่วนมากเป็นชาวเมียนมาเชื้อสายกะเหรี่ยง และเชื้อสายอื่นๆรองลงมา
ส่วนพื้นที่จังหวัดตาก มีศูนย์พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยจากการสู้รบ ลักษณะนี้ 3 แห่งด้วยกัน คือ บ้านแม่หละในอำเภอท่าสองยาง ที่บ้านอุ้มเปี่ยมอำเภอพบพระ และที่บ้านนุโพ อำเภออุ้มผาง ซึ่งในประเทศไทยมีทั้งหมด 9 แห่ง กระจายอยู่ใน จังหวัดแม่ฮ่องสอน 4 แห่ง จังหวัดตาก 3 แห่ง จังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดราชบุรี จังหวัดละ 1 แห่ง ทั้ง9 พื้นที่ มีข้อกำหนดลักษณะเดียวกันคือ สิ่งปลูกสร้างเป็นที่พัก ต้องมาจากวัสดุธรรมชาติเท่านั้น