ยาย 93 ปี วอน คืนสิทธิ์คนพิการ หลัง ถูกตัดสิทธิ์ต่อบัตรคนพิการไม่ได้
สาวโวยถูกสวมสิทธิ “เราเที่ยวด้วยกัน” หวั่นชวดสิทธิ“เราชนะ”
เพจเฟซบุ๊ก “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ version2 by kim” โพสต์เรื่องราวของยายละมัย วัย 85 ปี อาชีพเก็บขวดขาย ที่ถูกวัยรุ่นในละแวกบ้าน สวมสิทธิ์เราชนะใช้ซื้อสินค้าและขอเงินสดจากทร้านจนหมด 4,000 บาท เมื่อไปแจ้งความ ตำรวจบอกให้ไปสืบที่ร้าน พร้อมให้หาชื่อจริงของวัยรุ่นคนดังกล่าวมาให้
วันนี้ 12 มี.ค. 2564 ทีมข่าวพีพีทีวีจึงลงพื้นที่บ้านยายในชุมชนแห่งหนึ่งย่านวงศ์สว่าง พบ น.ส.ละมัย มุกประดับ วัย 85 ปี หรือ ยายละมัย เล่าว่า ให้คนอื่นตรวจสอบสิทธิ์ให้ เพราะไม่มีโทรศัพท์มือถือและไม่สันทัดเทคโนโลยี กระทั่งวันที่ 5 มี.ค. วันที่เงินจะเข้าบัญชี จึงให้ลูกชายเพื่อนบ้านช่วยตรวจสอบสิทธิ์ โดยจ่ายเงินให้ 2 แม่-ลูก คนละ 20 บาท เป็นค่าจ้าง
ลูกชายเพื่อนบ้านก็นำบัตรประชาชน ด้านหลังได้ใช้คลิปหนีบกระดาษเขียนรหัสยืนยัน “เราชนะ” ไว้ โดยนำไปนาน 10-15 นาที ก่อนกลับมาบอกว่าเรียบร้อยแล้ว พร้อมคืนบัตรประชาชนให้ วันรุ่งขึ้นให้ลูกสาวนำบัตรประชาชนไปใช้สิทธิ์พบว่าถูกใช้หมดแล้ว 4 พันบาท
ยายละมัย เล่าว่า รู้สึกเสียใจมาก เพราะคนที่ทำอยู่ในซอยเดียวกัน เห็นหน้าค่าตากันเป็นประจำ เงินค่าจ้างต้องเก็บขวดขาย 3-4 วัน และเงิน 4,000 บาท สำหรับยาย มีความสำคัญมาก เพราะจะนำไปซื้อของกินกักตุนไว้ที่บ้านและเป็นค่าน้ำค่าไฟ เพราะไม่อยากให้ลูกเหนื่อยคนเดียว
ด้าน นางยุพาวรรณ แย้มครวญ วัย 46 ปี หลานสะใภ้ เล่าว่า หลังเกิดเหตุนำยายละมัยไปจ้งความที่ สน.ประชาชื่น แต่ตำรวจบอกว่าดำเนินคดีไม่ได้ เนื่องจากหลักฐานยังไม่พอ และให้ยายไปหาชื่อ-นามสกุล ผู้ก่อเหตุก่อน จึงโทรศัพท์สอบถามไปคอล เซ็นเตอร์ โครงการเราชนะ จนได้เบอร์โทรศัพท์มา จากนั้นได้ไปสอบถามกับเจ้าของร้าน จนทราบว่ามีคนนำมาซื้อของไป 3 ชิ้น และขอเป็นเงินสดราว 3,700 บาท
หลานยายละมัย ตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมจึงซื้อในลักษณะนี้ได้ เพราะการซื้อต้องใช้บัตรประชาชนตัวจริงเท่านั้น ส่วนกรณีที่ตำรวจให้ยายไปหาชื่อ-นามสกุลจริงของผู้ก่อเหตุ ก็ไม่กล้าไปสอบถาม และคิดว่าไปถามคงไม่ให้ถ้ารู้ว่าจะนำไปดำเนินคดี ส่วนคนแถวนี้ก็ไม่มีใครทราบชื่อจริงของผู้ก่อเหตุ
ทีมข่าวไปที่ร้านน้องบาร์เบอร์ ย่านวงศ์สว่าง ร้านที่ชายวัยรุ่นนำสิทธิ์เราชนะของยายละมัยไปใช้ซื้อสินค้า น.ส.ภัทรภร พิตรานรี เจ้าของร้าน เล่าว่า วันที่ 5 มี.ค. ช่วงเย็น ชายคนดังกล่าว พร้อมภรรยา อุ้มเด็กวัย 9 เดือนมาที่ร้าน นำรูปบัตรประชาชนยาย ที่ถ่ายไว้ในโทรศัพมาขอเช็กสิทธิ์ว่าสามารถใช้เราชนะได้หรือไม่ โดยอ้างว่าบัตรตัวจริงหาย กำลังไปแจ้งความ เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าใช้ได้ จึงให้ซื้อสินค้าไปราว 300 บาท และขอเงินส่วนที่เหลือราว 3,700 บาทเป็นเงินสด อ้างว่าจะนำไปซื้อนมให้ลูก และส่วนที่เหลือจะเอาไปคืนยาย รู้สึกสงสาร จึงเบิกเงินในระบบ ให้ทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวทดลองถ่ายรูปบัตรประชาชนผู้ช่วยช่างภาพในโทรศัพท์มือถือ แล้วให้เจ้าของร้านสแกนตรวจสอบสิทธิ์เราชนะ ปรากฎว่าสามารถสแกนได้จริง ซึ่งขั้นตอนต่อไป หากมีสิทธิ์เราชนะ สามารถกรอกรหัสผ่านที่ตั้งไว้ แล้วใช้เงินของโครงการได้เลย เจ้าของร้านจึงตั้งข้อสังเกตว่า จุดนี้อาจเป็นช่องโหว่ที่ทำให้เกิดการสวมสิทธิ์ในลักษณะเดียวกันนี้กับคนอื่น ๆ ได้
ส่วนด้านคดีความ ร้อยเวรเจ้าของคดี สน.ประชาชื่น ระบุว่า ยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้เนื่องจากคดียังไม่มีความชัดเจน ต้องสอบปากคำเจ้าของเรื่องก่อน โดยได้นัดเข้ามาให้ปากคำที่ สน.ประชาชื่น ในวันพรุ่งนี้ ( 13 มี.ค.)