เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ยังไม่พบประวัติ “ก็อตซิลลา” ฉีดวัคซีน

โดย PPTV Online

เผยแพร่

เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ ซึ่งรับก็อตซิลลามาดูแลต่อ พยายามสอบถามเรื่องการฉีดวัคซีนกับเจ้าของมาหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้รับข้อมูล

เจ้าของคาด “ก็อตซิลล่า” กัดนักข่าว เหตุหวงเจ้าของ

เจ้าของบอกเพียงว่า พาลิงอ้วนไปฉีดวัคซีนแล้วที่คลินิกย่านมีนบุรี แต่ไม่ยอมให้ข้อมูลว่า ฉีดวัคซีนอะไรบ้าง รวมถึง ระบุว่า จำไม่ได้ว่า ครั้งล่าสุด ฉีดวัคซีนเมื่อไหร่

เป็นคำยืนยันจาก นายมานพ เอ็มสรรค์ เจ้าของลิงอ้วนก็อตซิลลา ที่เปิดเผยพิกัดว่า คลินิกที่เขาพาลิงอ้วนไปฉีดวัคซีน อยู่แถววัดแสนสุข เขตมีนบุรี แต่ไม่ยอมบอกชื่อคลินิกและ พิกัดที่ชัดเจน รวมถึง อ้างว่า ตัวเองลืมไปแล้วว่าครั้งสุดท้ายที่พาลิงอ้วนไปฉีดวัคซีน คือ เมื่อไหร่

สาเหตุที่ต้องถามข้อมูลเรื่องนี้ เพราะ ลิงอ้วนกัดนักข่าวและเจ้าหน้าที่อุทยาน รวมทั้งหมด 3 คน ข้อมูลการฉีดวัคซีนจะทำให้การรักษาทำได้ง่ายมากขึ้น แต่เจ้าของยังไม่ยอมเปิดเผยข้อมูล

ทีมข่าวพีพีทีวี จึง ลงพื้นที่ไปสำรวจหาคลินิกและโรงพยาบาลรักษาสัตว์ย่านวัดแสนสุข ตามที่เจ้าของลิงอ้าง พบว่ามีคลินิกรักษาสัตว์ 2 แห่ง โดย แห่งแรกอยู่ใกล้วัดที่สุด จากการสอบถาม ทางคลินิกบอกว่า ต้องตรวจสอบข้อมูลก่อนว่า ลิงอ้วนก็อตซิลลา เคยมารับวัคซีนที่นี่หรือไม่ แต่เท่าที่จำได้ สัตวแพทย์ ประจำคลินิกบอกว่า เคยมีลิงเข้ามารักษาในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่เป็น “ลิงตัวเล็ก” ไม่ได้อ้วนเหมือนลิงก็อตซิลลา พร้อมให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า โดยทั่วไปเวลาที่มีลิงมารับวัคซีนที่คลินิกนี้ ก็จะฉีดเฉพาะวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าเท่านั้น

ส่วนคลินิกรักษาสัตว์อีกแห่ง ที่อยู่ห่างจากวัดแสนสุข ออกไปราว 2 กิโลเมตร จากการสอบถาม สัตวแพทย์และพนักงาน ยืนยันว่า ลิงก็อตซิลลา ไม่เคยมารักษาที่นี่แน่นอน เพราะหากมารักษาก็จะมีประวัติและจะจำได้

ส่วนที่ตลาดมีนบุรี วันนี้ทีมข่าวเข้าไปสำรวจ พบว่า ร้านขายลูกชิ้นของเจ้าของลิงอ้วน ปิดร้านมา 2 วันแล้ว แม่ค้าในตลาดบอกว่า เจ้าของร้านไม่มาขายของตั้งแต่เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯรับลิงไปดูแล

แม่ค้าก๋วยเตี๋ยวที่เปิดร้านอยู่ใกล้ๆ เล่าว่า ปกติจะเห็นลิงก็อตซิลลามาตลาดทุกวันตั้งแต่เช้าพร้อมเจ้าของ ระหว่างที่เจ้าของทำงาน ลิงจะอยู่หลังร้าน พอตกเย็นเจ้าของจะเอาลิงขึ้นมานั่งบนโต๊ะ คนที่เดินผ่านมาเห็น จะเข้ามาเล่นกับลิง โดยในช่วงแรกๆที่เจ้าของนำลิงมาที่ตลาด พบว่า ลิงมีอาการดุอย่างเห็นได้ชัด แต่ช่วงหลังเริ่มชินกับคนในตลาดมากขึ้น

ส่วนคลิปวิดีโอนี้ คือ คลิปที่เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ บันทึกไว้ เป็นภาพระหว่างที่ ชุดเหยี่ยวดง เข้าไปย้ายลิงแสมอ้วนชื่อก็อตซิลลา จากร้านขายของในตลาด จากคลิปจะเห็นว่า นายมานพ เจ้าของลิง ยืนกุมท่อนแขนตัวเอง หลังเป็นคนจับก็อตซิลลาเขากรงขนย้าย ท่ามกลางผู้ค้าในตลาดและประชาชนมุงดู

เจ้าหน้าที่ชุดเหยี่ยวดง กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า ในวันนั้น ชุดปฏิบัติการพร้อมสัตวแพทย์ต้องการไปตรววจสุขภาพลิงแสมตัวนี้ แต่เจ้าของลิงไม่มีใบอนุญาตครอบครองถูกต้อง จึงจำเป็นต้องนำไปรับเลี้ยงตามระเบียบกฎหมาย และระหว่างการขนย้าย เจ้าของ แจ้งว่า ลิงตัวนี้กัดทุกคนยกเว้นเจ้าของ เจ้าหน้าที่จึงให้เจ้าของเป็นคนอุ้มลิงเอง แต่ก็พบว่านายมานพถูกลิงกัด

ความผูกพันระหว่างเจ้าของกับลิงก็อตซิลลา เจ้าหน้าที่ชุดเหยี่ยวดง บอกว่า เข้าใจและ รับรู้ความรู้สึกได้ จึงแนะนำว่า ให้แจ้งเป็นสัตว์ป่าพลัดหลง เพราะตามกฎหมายการครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง หากแจ้งว่าพลัดหลงเจ้าของจะไม่ถูกดำเนินคดี แต่ก็ไม่สามารถให้เลี้ยงลิงต่อไปได้ พร้อมย้ำว่า เจ้าของยังสามารถไปหาและเล่นกับลิงได้ที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 กระบกคู่ จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยวันนี้นายมานพ พร้อมภรรยาและลูก ได้เดินทางไปหาลิงก็อตซิลลา เจ้าหน้าที่บอกว่า ล่าสุดวันนี้ลิงก็ยังคว้าขานายมานพมากัดเบาๆ คล้ายกับหยอกเล่น

ด้านนายนาวี ช้างภิรมย์ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ ชุดเหยี่ยวดง กรมอุทยานแห่งชาติฯ เปิดเผยว่า ตามกฎหมายสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ลิงแสมจัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง สามารถเลี้ยงได้ต่อเมื่อขอใบอนุญาตจากกรมอุทยานฯ ตั้งแต่ปี 2535 และ ปี 2546 และแจ้งเกิด ตาย ออกลูก ทุกครั้ง ส่วนคนทั่วไปสามารถไปหาซื้อตามฟาร์มเลี้ยงที่ได้รับใบอนุญาตเพาะพันธุ์ เมื่อผู้ครอบครองไม่มีใบอนุญาต เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องนำไปเลี้ยงต่อ และปัญหาการตรวจยึดสัตว์ป่า ที่ไม่ได้มาจากป่าโดยกำเนิด แทบจะไม่มีโอกาสปล่อยคืนสู่ธรรมชาติได้อีก เพราะสัตว์ตัวนั้นไม่สามารถดำรงชีวิตตามธรรมชาติได้ และปัจจุบันสายด่วนชุดเหยี่ยวดง 1362 รับเรื่องร้องเรียนปัญหาของลิงต่อปีกว่า 2 พันครั้ง ทั้งการรบกวนของลิงป่า และการเลี้ยงลิงไม่ไหว ซึ่งต้องรับแก้ปัญหาทุกกรณี

สำหรับการอ้างของเจ้าของก็อตซิลลาว่าได้แจ้งการครอบครองลิงไปแล้วหลายปีก่อน นายนาวี เปิดเผยว่า ไปสืบค้นข้อมูลย้อนหลัง 10 ปี ไม่พบข้อมูล และยังพบว่าภรรยานายมานพ บอกว่า ตัวเองอยู่ในมูลนิธิช่วยเหลือสัตว์แห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่อุทยานจึงมองว่า หากเป็นเช่นนั้น ยิ่งเป็นไปไม่ได้ว่าจะไม่รู้ขั้นตอนกันครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองอย่างถูกต้อง เพราะทุกมูลนิธิฯ ทำงานร่วมกับกรมอุทยานฯ

ส่วนที่ในโลกออนไลน์ มีกระแสไม่เห็นด้วยต่อการปฏิบัติหน้าที่ของกรมอุทยานแห่งชาติ หนึ่งในนั้นคือ เพจหมอแล็บแพนด้า แชร์โพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่งว่า ปัญหาลิงแสมลพบุรี ทำไมกรมอุทยานฯ ไม่แก้ไข

นายนาวี ระบุว่า ปัญหาลิงลพบุรี ความเข้าใจคือ ลิงทั้งหมดอาศัยอยู่ตามธรรมชาติอยู่แล้ว ไม่ใช่การครอบครองผิดกฎหมาย แต่ที่เกิดปัญหาคือคน พบการให้อาหาร ทั้งการท่องเที่ยวและยังพบคน ขายอาหารให้นักท่องเที่ยวด้วย ซึ่งทำให้ลิงจดจำ รวมเป็นฝูงใหญ่ ส่วนการแพร่พันธุ์ ทุกหน่วยงานช่วยกันแก้ปัญหาคุมกำเนิดเต็มที่อยู่แล้ว

สื่อนอกตีข่าว “ก็อตซิลลา” ลิงไทยหนักกว่า 20 กิโลฯ

 

 

 

 

Bottom-BDMS Bottom-BDMS

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ